POLAR เล็งดำเนินคดีกลุ่มปล่อยข่าวทำลายชื่อเสียง และสร้างความเสียหายต่อบริษัท เพื่อแสวงหาประโยชน์จากราคาหุ้น
บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) ระบุว่า บริษัทพร้อมที่ดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุดต่อผู้ที่กระทำการ ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จสร้างความเสียหายให้แก่ชื่อเสียงของบริษัท คณะกรรมการ และผู้บริหาร และกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงตั้งคณะตรวจสอบความเชื่อมโยง โดยเก็บข้อมูลผู้ร่วมขบวนการทางอินเทอร์เน็ตไว้เรียบร้อยแล้ว และจะติดตามดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ปี 2535 เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างการกระทำที่บ่อนทำลายบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องภายใต้ระเบียบกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ
แถลงการณ์ของ POLAR ระบุว่า เป็นคำเตือนสำหรับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และกลุ่มผู้ที่พยายามจะสร้างสถานการณ์ให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งมีกระบวนการบิดเบือนข้อมูลนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อต้องการสร้างประโยชน์ทำลายชื่อเสียงของบริษัท พร้อมทั้งสร้างสถานการณ์ที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มตนเอง และแสวงหาประโยชน์จากราคาหุ้น POLAR ในช่วงที่ผ่านมา
บริษัทจึงได้สรุปข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน และผู้ถือหุ้น ดังนี้ 1.ในอดีตช่วงระหว่างปี 54-56 บริษัทเคยประสบปัญหาจากธุรกิจเดิมภายใต้ชื่อเก่า คือ LL และ WAT เมื่อคณะกรรมการและผู้บริหารชุดใหม่ในนามของ POLAR ปัจจุบัน ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาทางการเงิน และพัฒนาองค์กรนับจากช่วงประมาณกลางปี 57 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ที่ปรับตัวหันมามุ่งสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามนโยบายที่ประกาศไว้ โดยใช้เวลาไม่นาน ส่งผลให้ผลประกอบการในปี 57 สามารถพลิกกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรก
2.การเพิ่มทุนของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ระหว่างปี 57-58 ทั้งการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) แบบให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) และออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรุ่นต่างๆ ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องโดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และปฏิบัติตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ โดยมีการรายงานรายชื่อ ความสัมพันธ์ จำนวนหุ้น วัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุน และประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับหลังจากการเพิ่มทุนอย่างครบถ้วนถูกต้อง โดยคณะกรรมการบริษัทคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นโดยรวมเป็นสำคัญ
3.คณะกรรมการและฝ่ายบริหารได้แก้ไขปัญหาในการปรับโครงสร้างธุรกิจ ควบคู่กับการเพิ่มทุนเพื่อให้สถานะทางการเงิน และฐานทุนของบริษัทดีขึ้น พร้อมที่จะดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามนโยบายหลักที่ประกาศไว้ สะท้อนจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เริ่มทยอยเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งแผนลงทุนพัฒนาโครงการบ้านพักอากาศขนาดใหญ่ในที่ดินที่เข้าซื้อไว้ที่ จ.พังงาน ในรูปแบบ Pool Villa เพื่อขายมูลค่าโครงการ 11,000 ล้านบาท
และยังมีการร่วมทุนกับ The Crown Estate หรือสำนักงานส่วนทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ ของควีน อลิซเบธ ในโครงการเดอะเชอร์วูด (The Sherwood) ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นโครงการตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางการค้า และธุรกิจ มูลค่าโครงการมากกว่า 7,000 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นโครงการที่สร้างผลตอบแทนที่ดีมากด้วยเช่นกัน โดยมีแผนจะเปิดตัวในเดือน พ.ย.58
บมจ.โพลาริส แคปปิตัล (POLAR) ระบุว่า บริษัทพร้อมที่ดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุดต่อผู้ที่กระทำการ ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง และผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จสร้างความเสียหายให้แก่ชื่อเสียงของบริษัท คณะกรรมการ และผู้บริหาร และกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงตั้งคณะตรวจสอบความเชื่อมโยง โดยเก็บข้อมูลผู้ร่วมขบวนการทางอินเทอร์เน็ตไว้เรียบร้อยแล้ว และจะติดตามดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ปี 2535 เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างการกระทำที่บ่อนทำลายบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องภายใต้ระเบียบกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ
แถลงการณ์ของ POLAR ระบุว่า เป็นคำเตือนสำหรับนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และกลุ่มผู้ที่พยายามจะสร้างสถานการณ์ให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งมีกระบวนการบิดเบือนข้อมูลนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะเพื่อต้องการสร้างประโยชน์ทำลายชื่อเสียงของบริษัท พร้อมทั้งสร้างสถานการณ์ที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มตนเอง และแสวงหาประโยชน์จากราคาหุ้น POLAR ในช่วงที่ผ่านมา
บริษัทจึงได้สรุปข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน และผู้ถือหุ้น ดังนี้ 1.ในอดีตช่วงระหว่างปี 54-56 บริษัทเคยประสบปัญหาจากธุรกิจเดิมภายใต้ชื่อเก่า คือ LL และ WAT เมื่อคณะกรรมการและผู้บริหารชุดใหม่ในนามของ POLAR ปัจจุบัน ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาทางการเงิน และพัฒนาองค์กรนับจากช่วงประมาณกลางปี 57 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ที่ปรับตัวหันมามุ่งสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามนโยบายที่ประกาศไว้ โดยใช้เวลาไม่นาน ส่งผลให้ผลประกอบการในปี 57 สามารถพลิกกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรก
2.การเพิ่มทุนของบริษัทในช่วงที่ผ่านมา ระหว่างปี 57-58 ทั้งการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) แบบให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) และออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรุ่นต่างๆ ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องโดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และปฏิบัติตามระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ โดยมีการรายงานรายชื่อ ความสัมพันธ์ จำนวนหุ้น วัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุน และประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับหลังจากการเพิ่มทุนอย่างครบถ้วนถูกต้อง โดยคณะกรรมการบริษัทคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นโดยรวมเป็นสำคัญ
3.คณะกรรมการและฝ่ายบริหารได้แก้ไขปัญหาในการปรับโครงสร้างธุรกิจ ควบคู่กับการเพิ่มทุนเพื่อให้สถานะทางการเงิน และฐานทุนของบริษัทดีขึ้น พร้อมที่จะดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตามนโยบายหลักที่ประกาศไว้ สะท้อนจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เริ่มทยอยเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งแผนลงทุนพัฒนาโครงการบ้านพักอากาศขนาดใหญ่ในที่ดินที่เข้าซื้อไว้ที่ จ.พังงาน ในรูปแบบ Pool Villa เพื่อขายมูลค่าโครงการ 11,000 ล้านบาท
และยังมีการร่วมทุนกับ The Crown Estate หรือสำนักงานส่วนทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ ของควีน อลิซเบธ ในโครงการเดอะเชอร์วูด (The Sherwood) ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นโครงการตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางการค้า และธุรกิจ มูลค่าโครงการมากกว่า 7,000 ล้านบาท โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นโครงการที่สร้างผลตอบแทนที่ดีมากด้วยเช่นกัน โดยมีแผนจะเปิดตัวในเดือน พ.ย.58
