xs
xsm
sm
md
lg

อาซีฟา โรดโชว์กรุงเทพฯ หลังเดินสาย 3 จังหวัดใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อาซีฟา เดินหน้าโรดโชว์กรุงเทพฯ หลังเดินสายหาดใหญ่ เชียงใหม่ ขอนแก่น นักลงทุนให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม เตรียม Sign Underwrite 27 กรกฎาคม 2558 พร้อมสรุปราคาขายหุ้นไอพีโอ 150 ล้านหุ้น และจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนใน SET “สมภพ กีระสุนทรพงษ์” กรรมการผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่าย เป็นปลื้มหลังนักลงทุนหัวเมืองใหญ่สนใจหุ้น คาดเข้าเทรดได้ต้นเดือนสิงหาคมนี้ “ไพบูลย์ อังคณากรกุล” แม่ทัพใหญ่ มั่นใจ ASEFA มีศักยภาพ โครงสร้างธุกิจแข็งแกร่งไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง

นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำเสนอข้อมูลบริษัทฯ (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนในวันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2558 นี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 150 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้ ASEFA เป็นผู้นำที่ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสวิตช์บอร์ดไฟฟ้าที่ได้รับมาตรฐานสากลภายใต้แบรนด์ Asefa และได้รับลิขสิทธิ์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก จาก Schneider Electric Industries และ Socomec นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ระบบกระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า เช่น รางและบันไดพาดสายไฟฟ้า และโคมไฟส่องสว่างภายใต้เครื่องหมายการค้าอลูม่าร์ ซึ่ง ASEFA มุ่งมั่นพัฒนาอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างครบวงจรเพื่อรองรับการเติบโตทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

“บริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯ จะขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคตตามอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจการให้บริการศูนย์ข้อมูลโรงไฟฟ้าต่างๆ ที่จะต้องเพิ่มขึ้นตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าของประเทศ รวมทั้งการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ตามโครงการลงทุนพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง” นายไพบูลย์ กล่าว

ด้านนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนที่กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น ด้วยศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีการพัฒนาสินค้าของตนเองเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันในอนาคต จึงเชื่อว่าการเข้ามาระดมทุนในตลาดครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ ASEFA โดยช่วงที่ผ่านมา และระหว่างวันที่ 17-22 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เดินทางไปนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนในจังหวัดสงขลา เชียงใหม่ และขอนแก่น ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน สอบถามข้อมูล และให้ความสนใจจองซื้อหุ้น สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการขายหุ้นในครั้งนี้ ASEFA จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน จึงมั่นใจในศักยภาพทางการแข่งขัน และการขยายโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

“เดินทางไปโรดโชว์หัวเมืองใหญ่ที่มีฐานนักลงทุนระดับสูงทั้งหาดใหญ่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ได้รับการตอบรับที่ดีมาก สนใจทั้งถามข้อมูล และสนใจจองซื้อหุ้น ซึ่ง ASEFA คาดว่าจะทราบราคาไอพีโอในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้ ที่จะมีพิธีแต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดย Co-Underwrite จะมีประมาณ 6-7 แห่ง และคาดเทรดในต้นเดือนสิงหาคมตามแผนที่วางไว้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่กังวลต่อภาวะตลาดหุ้น เพราะเราเชื่อมั่นในตัวบริษัทฯ ซึ่งการกำหนดราคาต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม มีส่วนลดเพื่อตอบแทนนักลงทุน” นายสมภพ กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาส 1/2558 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 520.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีจำนวน 441.92 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 17.88 โดยมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย จำนวน 309.42 ล้านบาท รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ซื้อมาเพื่อจำหน่ายต่อ จำนวน 88.47 ล้านบาท รายได้จากการบริการ จำนวน 74.22 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 23.99 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 209.38 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการรื้อถอนโครงการไฟฟ้าบางปะกง จำนวน 42.34 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิของบริษัทฯ และบริษัทย่อย งวดไตรมาส 1/2558 อยู่ที่ 32.50 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.24%


กำลังโหลดความคิดเห็น