xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการ ตลท. คาดจีดีพียังโตได้ 3% มองเฟดปรับ ดบ. อาจส่งผลต่อนักลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการ ตลท. ชี้ภัยแล้งไม่กระทบตลาดหุ้น แต่อาจส่งผลต่อจีดีพี แต่เชื่อว่า ศก.ไทยยังเติบโตได้ 3% เพราะการส่งออกดีกว่าปีก่อน แถมมีท่องเที่ยวเป็นตัวช่วย พร้อมคาดเฟดปรับ ดบ. อาจส่งผลต่อนักลงทุน ด้านโบรกฯ แนะจับตาผลประกอบการ Q2 และตัวเลข ศก.สหรัฐฯ

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไม่มีผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหุ้นไทย เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทุนด้านการเกษตร แต่อาจส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม

ทั้งนี้ การเติบโตของจีดีพียังเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ซึ่งต้องดูว่าจะเกิดขึ้นตามแผนในช่วงไตรมาส 4 หรือไม่ ทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะเป็นช่วงปลายปีหรือไม่ เพราะจะส่งผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

ขณะที่ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงต้นปีปรับตัวสูงขึ้นใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 47,000 ล้านบาท ดัชนีอยู่ที่ 1,400-1,500 จุด เนื่องจากอัตราผลตอบแทนการลงทุนไม่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งช่วงครึ่งปีหลังยังต้องติดตามการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในไตรมาสที่ 2/2558 ที่จะออกมาในช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2558 นี้ จะเป็นไปอย่างไร

ผู้จัดการ ตลท. ยังมองว่า เศรษฐกิจไทยทั้งปีน่าขยายตัวได้ถึง 3% เพราะการส่งออกในปีนี้ยังดีกว่าปีก่อน และยังพอมีการท่องเที่ยวเป็นตัวช่วยพยุงเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง แต่ต้องรอดูการจัดการปัญหาของรัฐบาล และการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในช่วงไตรมาส 4 เป็นไปตามเป้าหมายที่ประกาศไว้หรือไม่

ขณะที่ บล.กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (20-24 ก.ค.) ดัชนีมีแนวต้านที่ 1,495 และ 1,510 จุด ตามลำดับ ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 1,470 และ 1,450 จุด ประเด็นติดตามในประเทศ ได้แก่ การรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2558 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ

สำหรับประเด็นในต่างประเทศคงต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในโลก รวมทั้งการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เดือน มิ.ย. เช่น เครื่องชี้ภาคการผลิต (Markit PMI) และเครื่องชี้ตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการรายงานดัชนี PMI ในยูโรโซน และจีน
กำลังโหลดความคิดเห็น