ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการย่อตัวลงอย่างหนัก หลังจากที่ได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากสถานการณ์ในยุโรปที่เริ่มมีความวุ่นวายขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ผลการทำประชามติของกรีซเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่ต่างปฏิเสธเงื่อนไขของเจ้าหนี้ และเพิ่มโอกาสที่กรีซอาจจะต้องออกจากยูโรโซนอีกครั้ง ส่งผลให้เกิดแรงขายสินทรัพย์ในภูมิภาคยุโรป รวมถึงค่าเงินยูโร และหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมา
ในสัปดาห์หน้า เหตุการณ์สำคัญที่ต้องติดตามยังอยู่ที่ภูมิภาคยุโรป โดยในวันที่ 12 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมระหว่างกลุ่มเจ้าหนี้ที่นำโดยเยอรมนี และฝรั่งเศส เพื่อหามาตรการรับมือต่อผลประชามติของกรีซ นอกจากนี้ ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญให้ต้องติดตามกันต่อ โดยเฉพาะยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ในวันพุธ ดัชนีราคาบ้านในวัพฤหัสบดี (9 ก.ค.) และตัวเลข CPI ในวันศุกร์ (10 ก.ค.) และยังต้องติดตามการแถลง และตอบคำถามนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสของประธาน FED เจเน็ต เยลเลน โดยเฉพาะช่วงเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่จะมีผลต่อสินทรัพย์ทั่วโลก และผลการประชุม ECB ในช่วงกลางสัปดาห์
ในทางเทคนิค ราคาทองคำยังมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสย่อตัวลงต่อ หลังจากที่ RSI ยังไม่เข้าเขต Oversold รวมถึง MACD ที่อยู่ต่ำกว่าเส้น Signal ส่งสัญญาณเป็นเชิงลบ โดยมีโอกาสลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,150 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ Retracement 0% และแนวรับถัดไปที่ 1,140 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ Low เดิม ขณะที่แนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,180 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ EMA 50 วัน และแนวต้านจิตวิทยาที่ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ
กมลธัญ พรไพศาลวิจิต
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ และผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด