โบรกฯ มองหุ้นเช้าปรับลง 2.48 จุด เนื่องจาก นลท.ชะลอลงทุน รอผลประชามติกรีซ ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ โดยมีแรงขายในกลุ่มพลังงาน แต่มีแรงซื้อกลับในกลุ่มแบงก์ คาดซึมซับข่าวลบผลประกอบการ Q2/58 ไปบ้างแล้ว เผยต่างชาติปรับพอร์ตขายหนักกว่า 4 พันล้าน วานนี้ น่าจะผ่อนคลายลง แต่ส่งออกที่ส่อไม่ดี และรัฐบาลมีปัญหารบกวนการทำงานมาก อาจส่งผลการเร่งขับเคลื่อนนโยบาย ศก. หลักไม่ได้เต็มที่ และกระทบการฟื้นตัว
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ แกว่งตัวแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการทำประชามติของกรีซในวันที่ 5 ก.ค.นี้ โดยตลาดมีแรงขายนำออกมาในหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์รีบาวนด์ขึ้นมาหลังจากที่ร่วงลงแรงเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) โดยตลาดเริ่มซึมซับปัจจัยลบแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/58 ที่ไม่ดีไประดับหนึ่งแล้ว
ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างชาติน่าจะผ่อนคลายลง หลังจากที่ขายออกมามากเมื่อวานนี้กว่า 4 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นการปรับพอร์ตการลงทุน หลังจากที่นักวิเคราะห์หลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนมุมมองต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์
“กลุ่มแบงก์รีบาวนด์ แต่ไม่มาก ขึ้นกับผลประกอบการไตรมาส 2 ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ตอนนี้ตลาดก็ซึมซับเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ไม่ดีไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่รู้งบที่จะออกมาจะดีกว่าคาดหรือไม่ ตลาดก็ซึมซับไประดับหนึ่งทำให้ราคาช่วงนี้ก็ยังทรงๆ ตัว จนกว่างบจะออกมา”
นายอภิชาติ เห็นว่าแนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ จะได้รับผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศที่ยังมีทิศทางชะลอตัว โดยล่าสุด ทิสโก้ได้ปรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้เหลือโต 3% จากเดิม 3.2% หลังแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ช้า จากแรงส่งของภาคการส่งออกที่ไม่ดี และรัฐบาลยังต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่รบกวนการทำงานค่อนข้างมาก ทำให้การจะเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายหลักไม่ได้เต็มที่มากนัก ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,489.14 จุด ลดลง 2.48 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.17% มูลค่าการซื้อขาย 15,371.23 ล้านบาท โดยแนวโน้มการซื้อขายช่วงบ่าย นายอภิชาติ คาดว่า ดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในแดนลบ พร้อมให้แนวรับระดับ 1,485 และแนวต้านอยู่ที่ 1,495-1,500 จุด