xs
xsm
sm
md
lg

“แสนสิริ” สรุปยอดขายครึ่งปีแรกเติบโต 260% โกยรายได้กว่า 15,000 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายเศรษฐา  ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่  บมจ.แสนสิริ  หรือ  SIRI
“เศรษฐา” คุยฟุ้งผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2558 เติบโตขึ้นทะลุ 260% มียอดขายกว่า 15,000 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 45% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท เผยแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง เดินหน้าตามแผนงาน เปิดอีก 12 โครงการ มูลค่า 24,000 ล้านบาท ไฮไลท์ 6 คอนโดใหม่ พร้อมลุยแนวราบอีก 6 โครงการ มั่นใจรายได้ตามเป้าหมายจากรายได้ไตรมาสแรกที่ทำได้แล้ว 6,000 ล้านบาท และยอดขายรอรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในมือแล้วอีก 24,000 ล้านบาท รวมเป็น 30,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 85% จากเป้าหมายรายได้รวมที่ตั้งไว้ในปีนี้ 36,000 ล้านบาท ขณะที่มียอดขายรอรับรู้รายได้ในขณะนี้สูงกว่า 38,500 ล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ในอีก 4 ปี

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ หรือ SIRI เปิดเผยถึงผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ว่า บริษัทฯ มียอดขาย (พรีเซล) ประมาณ 15,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 260% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่ 4,281 ล้านบาท และคิดเป็น 45% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของแสนสิริเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดการขาย 2 โครงการคอนโดมิเนียม ที่เปิดการขายติดต่อกันได้ในระยะเวลาที่รวดเร็วภายในวันเปิดขายพรีเซลล์วันแรก ทั้งโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า โครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมล่าสุดของแสนสิริซึ่งนับเป็นมาสเตอร์พีซของถนนพหลโยธิน มูลค่า 1,500 ล้านบาท และโครงการ เดอะ ไลน์ จตุจักร - หมอชิต ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมภายใต้การร่วมทุนระหว่างแสนสิริและบีทีเอส มูลค่าโครงการเกือบ 6,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการเปิดการขายโครงการแนวราบต่างๆ อาทิ โครงการบ้านเดี่ยวระดับบน นาราสิริ บางนา ซึ่งมียอดขายไปถึงกว่า 75% รวมถึงบ้านเดี่ยวแบรนด์ “เศรษฐสิริ” ที่จ่อคิวปิดการขายถึง 4 โครงการ ได้แก่ เศรษฐสิริ ราชพฤกษ์-จรัญฯ2, เศรษฐสิริ วัชรพล, เศรษฐสิริ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ, และเศรษฐสิริ อ่อนนุช-ศรีนครินทร์ โดยคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในไตรมาส 3 นี้ รวมถึงความสำเร็จจากการจัดแคมเปญการตลาดต่างๆทั้งแคมเปญการตลาดโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศที่หัวหิน The Joy of Huahin และแคมเปญการตลาดโครงการแนวราบ Make It Yours ส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรก พุ่งสูงไปถึง 15,000 ล้านบาท

“ในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทประสบความสำเร็จจากการตอบรับที่ดีของลูกค้า โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดแบบ Global Launch เปิดการขายคอนโดมิเนียม เดอะ ไลน์ พร้อมกันใน 3 ประเทศ ไทย ฮ่องกง และสิงคโปร์ และได้รับความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทยังมีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 12 โครงการ ตามแผนที่วางไว้ โดยแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ และบ้านเดี่ยว 6 โครงการ ทั้งนี้ จากความสำเร็จในการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ล่าสุด บริษัทยังได้เตรียมสานต่อความสำเร็จโดยเตรียมเปิดการขายคอนโดมิเนียมใหม่ต่อเนื่องทันที โดยคาดว่าจะเปิดการขายในเร็วๆ นี้”

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน บริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้แล้ว สูงถึงกว่า 38,500 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับการรับรู้รายได้ไปถึงอีก 4 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ จากการที่ลูกค้าให้การตอบรับโอนที่อยู่อาศัยต่างๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยังส่งผลให้ปัจจุบัน บริษัททำรายได้ในไตรมาสแรกไปได้ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับยอดขายรอรับรู้รายได้ที่มีอยู่ในมือแล้วอีก 24,000 ล้านบาท เป็น 30,000 ล้านบาท คิดเป็น 85% จากเป้าหมายรายได้รวมที่ตั้งไว้ในปีนี้ 36,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็น presale backlog ที่สามารถ secure เป้ารายได้ที่สูงมาก ดังนั้น จึงยังคงเหลือยอดขายและยอดโอนที่จะต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายอีกเพียง 25% บริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายรายได้ที่วางไว้อย่างแน่นอน ขณะที่การบริหารงานภายใต้แผนงาน “Engineer For Growth” หรือ EFG นั้น นับว่าประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพ ทั้งการลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย เพิ่มยอดโอน และเน้นการสร้างกำไรเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่ประกาศไว้ จึงคาดว่าในสิ้นปีนี้ บริษัทจะมีอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ 12% และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 15% ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น