กรีซคลี่คลาย กังวล NPL ไม่มั่นใจตัวเลขเงินเฟ้อ นำเข้าปรับลงแรง สะท้อนกำลังซื้อวูบ

หุ้นภาคเช้าทรงตัว และแกว่งผันผวนในกรอบแคบ ขณะที่ตลาดต่างประเทศเริ่มฟื้นหลังสถานการณ์กรีซคลี่คลาย ส่วนตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศ ซึ่งเริ่มมองไปที่เอ็นพีแอลของกลุ่มแบงก์ที่มีทิศทางจะปรับขึ้นในไตรมาส 2/58 และคนก็ยังไม่มั่นใจตัวเลขเงินเฟ้อ รวมถึง Import ก็ปรับตัวลงแรง ทำให้เห็นได้ว่ากำลังซื้อได้ปรับตัวลงแรง

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (2 ก.ค.) ดัชนีภาคเช้าทรงตัวและแกว่งในกรอบแคบ โดยเมื่อเวลา 10.21 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,500.38 จุด ลดลง 4.17 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.28% มูลค่าการซื้อขาย 8,307.77 ล้านบาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้อยู่ในลักษณะทรงตัว เนื่องจากรัฐบาลกรีซได้ออกมาบอกว่า จะยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหนี้ ซึ่งทำให้เห็นได้ว่าสถานการณ์ของกรีซค่อนข้างจะรุนแรงในแง่ของสภาพคล่อง และการทำประชามติของกรีซเห็นว่าผิดรัฐธรรมนูญทำให้อาจมีการคว่ำได้ แต่ถ้าไม่คว่ำคนก็จะลงมติกัน ซึ่งผลโพลล่าสุดออกมาระบุว่า ยอมรับ 47% ไม่ยอมรับ 43% และอีก 10% ยังไม่ออกเสียง

อย่างไรก็ดี ตลาดต่างประเทศต่างเทรดรับผลในทาง Positive ในเรื่องกรีซก่อนแล้ว โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันเฉลี่ยประมาณ 0.5% เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่ต่างปรับตัวขึ้น

สำหรับปัจจัยในประเทศเวลานี้ก็เริ่มมองไปที่ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของกลุ่มแบงก์ที่มีทิศทางจะปรับขึ้นในไตรมาส 2/58 และคนก็ยังไม่มั่นใจตัวเลขเงินเฟ้อ รวมถึง Import ก็ปรับตัวลงแรง ทำให้เห็นได้ว่ากำลังซื้อได้ปรับตัวลงแรง ดังนั้น ตลาดบ้านเราอาจจะบวกได้ไม่มาก และอาจจะน้อยกว่าตลาดในเอเชีย โดยให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,500-1,510 จุด

ขณะที่ดัชนีกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลง 1.02% มาอยู่ที่ 491.93 จุด ลดลง 5.06 จุด เมื่อเวลา 10.06 น. โดยหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่ปรับตัวลงมากสุด 3 อันดันแรก และมีวอลุ่มเทรดหนาแน่น ได้แก่ หุ้น KBANK มาอยู่ที่ 183 บาท ลดลง 6 บาท เปลี่ยนแปลง -3.17% มูลค่าซื้อขาย 1,301.98 ล้านบาท

หุ้น SCB อยู่ที่ 154.50 บาท ลดลง 1.00 บาท เปลี่ยนแปลง -0.64% มูลค่าซื้อขาย 268.22 ล้านบาท หุ้น BBL อยู่ที่ 177.00 บาท ลดลง 1.00 บาท เปลี่ยนแปลง -0.56% มูลค่าซื้อขาย 116.70 ล้านบาท