ลีซ อิท เดินหน้าปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีครบวจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ร่วมออกบูทในงาน “mai FORUM 2015 : มหกรรมรวมพลังคน mai 2” วันที่ 1 ก.ค.นี้ จัดโปรโมชันพิเศษเพียบ! ฟรีค่าธรรมเนียมเมื่อเปิดวงเงิน (สูงสุด 50,000 บาท) อนุมัติเร็ว วงเงินสูง และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ด้านผู้บริหาร “สมพล เอกธีรจิตต์” ประกาศบุกตลาดภาคเอกชนเพิ่มเป็น 30% ของพอร์ตสินเชื่อรวม เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมเพิ่มวงเงินสินเชื่อในจำนวนที่สูงขึ้นเหตุดีมานด์ทะลัก มั่นใจยอดสินเชื่อคงค้างปี 58 พุ่งแตะ 1.1 พันล้านบาท ตามเป้าหมาย
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมร่วมออกบูทในงาน “mai FORUM 2015 : มหกรรมรวมพลังคน mai 2” โดยเจอกันได้ที่บูทที่ A12 Hall A ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2558 โดยบริษัทได้จัดเตรียมสินเชื่อไว้คอยให้บริการลูกค้าวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อจัดหาหนังสือค้ำประกันซองประมูล (Bid Bond) สินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Finance) สินเชื่อลีสซิ่ง และสินเชื่อเช่าซื้อ (Leasing Hire Purchase) และสินเชื่อรับซื้อลูกหนี้การค้า (Factoring) พร้อมโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่มาที่บูท รับสิทธิพิเศษฟรีค่าธรรมเนียมเมื่อเปิดวงเงิน (สูงสุด 50,000 บาท) และในวันงานนักลงทุนจะได้พบปะผู้บริหาร LIT และฟังสัมภาษณ์พิเศษที่บูทในช่วงเช้าอีกด้วย
“แนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้สถาบันการเงินคุมเข้มปล่อยสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอี ซึ่งถือเป็นลูกค้ากลุ่มใหญ่ของเรา ผมมองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการขยายสินเชื่อแฟกตอริ่งของบริษัทในการเพิ่มฐานลูกค้าภาคเอกชน โดยในปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทรุกตลาดภาคเอกชนเอย่างหนัก โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนลูกค้าภาคเอกชนเพิ่มเป็น 30% จากเดิมมีสัดส่วนเพียง 20% ของสินเชื่อรวมเท่านั้น ส่วนที่เหลือยังคงเป็นสินเชื่อที่ปล่อยให้แก่หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ” นายสมพล กล่าว
นายสมพล กล่าวว่า ตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอียังมีช่องว่างให้ขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก โดยบริษัทมีแผนงานร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าเดินหน้าเจาะตลาดใหม่เพื่อปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ นอกเหนือจากสินค้าไอที เพราะ “ลีซ อิท” ไม่ใช่แค่ “ลีซ ไอที” แต่เราคือผู้ให้บริการสินเชื่อที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ทั้งในธุรกิจไอที และนอกภาคไอทีด้วย” นายสมพล กล่าว
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้รัฐบาลจะเดินหน้าขยายการลงทุนของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นคู่ค้าภาครัฐ มีความต้องการสินเชื่อแฟกตอริ่งเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนมากขึ้น และเข้ามาติดต่อขอรับสินเชื่อกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพราะ บริษัทมีจุดแข็ง คือ เข้าใจความต้องการของเอสเอ็มอี LIT จึงสามารถเสนอบริการอนุมัติเงินกู้ให้ลูกค้าได้รวดเร็ว ให้วงเงินสูง และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการบริหารความเสี่ยง LIT มีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ และมีการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถสกรีนลูกค้าที่มีศักยภาพ ส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับต่ำกว่า 2% เท่านั้น เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 3-4% ของสินเชื่อรวม และบริษัทจะรักษาระดับเอ็นพีแอลไม่ให้เกิน 2%
กรรมการผู้จัดการบริษัท ลีซ อิท กล่าวอีกว่า คาดว่า ยอดหนี้สินเชื่อคงเหลือในปี 2558 น่าจะแตะที่ระดับ 1,150 ล้านบาท และบริษัทได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว โดยเตรียมออกหุ้นกู้ในวงเงินประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมของเวลาเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกที่สุด และการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้งติดต่อกันตั้งแต่ต้นปี โดยดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) 1 วัน ลดจาก 2% เหลือ 1.50% จะทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจลดลง
ทั้งนี้ พอร์ตสินเชื่อรวมในไตรมาส 1/58 อยู่ที่ 912.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากสิ้นปีที่ผ่านมามีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 859.04 ล้านบาท และแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่ารายได้และกำไรของบริษัทในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ตามแผนที่วางไว้
