บล.คันทรี่ กรุ๊ป ผนึกพันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านไอทีจากสิงคโปร์ Neo & Partners Global เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “เทรดหุ้น-อนุพันธ์” ออนไลน์โดยตรง (DMA) ความเร็วสูง มั่นใจตอบโจทย์ความต้องการนักลงทุนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
นางสุดธิดา จิระพัฒน์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Neo & Partners Global ในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ในการซื้อขายหลักทรัพย์และแสดงให้เห็นว่าตลาดของเรากำลังเริ่มที่จะเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และเสนอบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุน
มร. Eric Neo Say Wei ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท Neo & Partners Global กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบ Ecosystem ธุรกิจที่สมบูรณ์แบบของ Trading-Atrium เราได้เลือกสรรอย่างรอบคอบที่จะร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งเป็นสมาชิกสำนักหักบัญชีของทั้ง SET และ TFEX ทั้งนี้ ความเชี่ยวชาญในประเภทสินทรัพย์เฉพาะ ความรู้ภายในประเทศและผลงานที่ผ่านมาของ CGS ช่วยให้ลูกค้ามีข้อได้เปรียบในการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทย เอเชียจะมีที่หมายทางการเงินที่น่าสนใจอย่างประเทศไทย ด้วย Trading Atrium ที่นำเสนอความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังคงพัฒนาระบบเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและในปี พ.ศ. 2558 ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เปิดตัวระบบ New Clearing System สำหรับหลักทรัพย์โดยใช้เทคโนโลยีระดับสูงและมีประสิทธิภาพสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศและขยายธุรกิจของ SET
“Neo & Partners Global ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ทั้งผู้ให้บริการ (Sell-side) และผู้รับบริการ (Buy-side) เติบโตไปพร้อมๆ กัน โดยที่ได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สุดท้ายนี้เราหวังว่าความพยายามและความร่วมมือของเราจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างประเทศให้กับสิงคโปร์”
โดยระบบ Ecosystem แบบ 360 องศาที่เป็นเอกลักษณ์ของ Neo & Partners Global ผสานเทคโนโลยีระดับสูงเข้ากับการออกแบบที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-Centric Design) สำหรับกระบวนการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ Algorithmic และ Quantitative e-Trading ทั้งหมดในจุดเดียว พร้อมกับการเปิดระบบ New Clearing System ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสำหรับรองรับธุรกรรมระหว่างประเทศในปี พ.ศ. 2558
โดย Neo & Partners Global (NPG) เป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน solution ซื้อขายหลักทรัพย์ทางอิเล็กทรอนิกส์และเป็นผู้ก่อตั้ง Trading Atrium แห่งแรกในเอเชีย ทางบริษัท ประกาศว่า กำลังเตรียมความพร้อมสนับสนุนส่งคำสั่งแบบ DMA ความเร็วสูงตรงไปยัง co-location ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของประเทศไทย (TFEX) จากสิงคโปร์
กองทุนประเภทเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund) ธุรกิจครอบครัว (Family Office) บริษัทซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีบริษัท (Proprietary Trading Firm) ผู้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (Commodity Trading Advisor) และบริษัทต่างประเทศสามารถใช้ Trading-Atrium เพื่อสร้าง หรือเพิ่มขีดความสามารถในการซื้อขายแบบ DMA ความเร็วสูงของตนเข้าสู่ประเทศไทยจากสิงคโปร์ระบบดังกล่าวสามารถส่งคำสั่งซื้อขายแบบ Algorithmic ได้ในสินทรัพย์หลากหลายประเภทที่สามารถปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้รวมถึงสามารถใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์เดิมที่ลูกค้าใช้งานอยู่ในปัจจุบัน (In-house software solution) อีกทั้งระบบควบคุมความเสี่ยงยังถูกพัฒนาให้สามารถปรับเปลี่ยนไปตามลักษณะการลงทุนของแต่ละลูกค้าได้
นอกจากนี้ NPG ยังร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ชั้นนำในการให้บริการเครือข่ายข้อมูลความเร็วสูง (มิลลิวินาที) เพื่อการซื้อขายสินทรัพย์ประเภทต่างๆ โดยใช้เวลาในการประมวลต่ำแม้ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นางสุดธิดา จิระพัฒน์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Neo & Partners Global ในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ในการซื้อขายหลักทรัพย์และแสดงให้เห็นว่าตลาดของเรากำลังเริ่มที่จะเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และเสนอบริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุน
มร. Eric Neo Say Wei ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท Neo & Partners Global กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบ Ecosystem ธุรกิจที่สมบูรณ์แบบของ Trading-Atrium เราได้เลือกสรรอย่างรอบคอบที่จะร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งเป็นสมาชิกสำนักหักบัญชีของทั้ง SET และ TFEX ทั้งนี้ ความเชี่ยวชาญในประเภทสินทรัพย์เฉพาะ ความรู้ภายในประเทศและผลงานที่ผ่านมาของ CGS ช่วยให้ลูกค้ามีข้อได้เปรียบในการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทย เอเชียจะมีที่หมายทางการเงินที่น่าสนใจอย่างประเทศไทย ด้วย Trading Atrium ที่นำเสนอความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภท ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังคงพัฒนาระบบเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและในปี พ.ศ. 2558 ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เปิดตัวระบบ New Clearing System สำหรับหลักทรัพย์โดยใช้เทคโนโลยีระดับสูงและมีประสิทธิภาพสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศและขยายธุรกิจของ SET
“Neo & Partners Global ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ทั้งผู้ให้บริการ (Sell-side) และผู้รับบริการ (Buy-side) เติบโตไปพร้อมๆ กัน โดยที่ได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย สุดท้ายนี้เราหวังว่าความพยายามและความร่วมมือของเราจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของฐานะการเป็นศูนย์กลางการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างประเทศให้กับสิงคโปร์”
โดยระบบ Ecosystem แบบ 360 องศาที่เป็นเอกลักษณ์ของ Neo & Partners Global ผสานเทคโนโลยีระดับสูงเข้ากับการออกแบบที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง (Human-Centric Design) สำหรับกระบวนการส่งคำสั่งซื้อขายแบบ Algorithmic และ Quantitative e-Trading ทั้งหมดในจุดเดียว พร้อมกับการเปิดระบบ New Clearing System ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสำหรับรองรับธุรกรรมระหว่างประเทศในปี พ.ศ. 2558
โดย Neo & Partners Global (NPG) เป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้าน solution ซื้อขายหลักทรัพย์ทางอิเล็กทรอนิกส์และเป็นผู้ก่อตั้ง Trading Atrium แห่งแรกในเอเชีย ทางบริษัท ประกาศว่า กำลังเตรียมความพร้อมสนับสนุนส่งคำสั่งแบบ DMA ความเร็วสูงตรงไปยัง co-location ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของประเทศไทย (TFEX) จากสิงคโปร์
กองทุนประเภทเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund) ธุรกิจครอบครัว (Family Office) บริษัทซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อบัญชีบริษัท (Proprietary Trading Firm) ผู้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจให้คำแนะนำเกี่ยวกับการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (Commodity Trading Advisor) และบริษัทต่างประเทศสามารถใช้ Trading-Atrium เพื่อสร้าง หรือเพิ่มขีดความสามารถในการซื้อขายแบบ DMA ความเร็วสูงของตนเข้าสู่ประเทศไทยจากสิงคโปร์ระบบดังกล่าวสามารถส่งคำสั่งซื้อขายแบบ Algorithmic ได้ในสินทรัพย์หลากหลายประเภทที่สามารถปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้รวมถึงสามารถใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์เดิมที่ลูกค้าใช้งานอยู่ในปัจจุบัน (In-house software solution) อีกทั้งระบบควบคุมความเสี่ยงยังถูกพัฒนาให้สามารถปรับเปลี่ยนไปตามลักษณะการลงทุนของแต่ละลูกค้าได้
นอกจากนี้ NPG ยังร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ชั้นนำในการให้บริการเครือข่ายข้อมูลความเร็วสูง (มิลลิวินาที) เพื่อการซื้อขายสินทรัพย์ประเภทต่างๆ โดยใช้เวลาในการประมวลต่ำแม้ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
