หุ้นปิดลบ 6.75 จุด หลังทดสอบแนวต้าน 1,515 จุด แต่ไม่สามารถยืนได้ เพราะไร้ปัจจัยหนุนใหม่ และมีปัจจัยต่างประเทศกดดัน พร้อมระบุ สัญญาณที่จะเห็นการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจนได้นั้น คงเป็นสัปดาห์หน้า เพราะจะมีการเข้ามาเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2/58 ประกอบการจะมีการทำ window dressing ก่อนปิดงบในช่วงปลายเดือนนี้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 มิ.ย.) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,508.04 จุด ลดลง 6.75 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.45% มูลค่าการซื้อขาย 40,625.23 ล้านบาท โดยภาพรวมในวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,518.44 จุด และจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,506.57 จุด
ด้านสัดส่วนการลงทุน แยกตามประเภทมีดังนี้ นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 1,934.97 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 118.73 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 538.28 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศซื้อสุทธิ 1,515.42 ล้านบาท
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 มิ.ย.) ปรับตัวลงจากแรงขายหลังดัชนีขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,515 จุด แต่ไม่สามารถยืนได้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยต่างประเทศกดดันอยู่ ทั้งเรื่องกรีซซึ่งอาจมีการผิดนัดชำระหนี้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงปลายเดือนนี้ โดยยังต้องรอความชัดเจนดังกล่าวในการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มยูโรโซนในคืนนี้ และตลาดยังมีความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนว่าฟื้นตัวขึ้นมาจริงหรือไม่
“ตลาดปรับตัวขึ้นวานนี้ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ส่งผลให้ช่วงเช้าในวันนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,515 จุด แต่ไม่สามารถยืนได้ทำให้มีแรงขายออกมา ทำให้ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน”
ทั้งนี้ มองว่า สัญญาณที่จะเห็นการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจนได้นั้นคงเป็นสัปดาห์หน้า เพราะจะมีการเข้ามาเก็งกำไรเรื่องผลประกอบการไตรมาส 2/58 ประกอบการจะมีการทำ window dressing ก่อนปิดงบในช่วงปลายเดือนนี้
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.) นายธีรวุฒิ เชื่อว่า ดัชนีจะแกว่งไซด์เวย์ โดยให้แนวต้าน 1,515 จุด ส่วนแนวรับ 1,505 จุด