ปธ.แบงก์กรุงเทพ คาดจีดีพีปี 58 เติบโตได้ 3% มองส่งออกคงฟื้นตัวยาก ยันไม่กังวลสินเชื่อทีวีดิจิตอล เพราะธุรกิจมีทั้งผู้ที่สำเร็จ และล้มเหลว ด้านผู้บริหารภาคเอกชนยอมรับแผนปีนี้คงต้องทำธุรกิจแบบประคองตัว ประเมินทีม ศก.ชุดนี้ทำหน้าที่ได้ดีระดับหนึ่ง แต่จะให้สมคิดเข้ามาร่วมหรือไม่นั้น คงตอบไม่ได้
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังได้รับผลจากกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวต่อเนื่องมาจากปีก่อน โดยคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 3 ขณะที่การส่งออกคงยากที่จะขยายตัวได้ เนื่องจากประเทศคู่ค้ายังคงมีปัญหาทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน ดังนั้น การเบิกจ่ายของภาครัฐจะเป็นเครื่องมือเดียวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะเร่งเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย
ส่วนเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารปีนี้คาดว่าจะโตร้อยละ 3-5 โดยธนาคารยังเน้นการช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการสภาพคล่องเพื่อผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อ ขณะเดียวกัน ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับสินเชื่อทีวีดิจิตอล เพราะมองว่าเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีทั้งผู้ที่ประสบความสำเร็จ และไม่สำเร็จ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ระหว่างบริษัทไทยทีวี ซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคาร กับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นั้นเป็นเรื่องของกฎหมายที่ต้องหาทางออกร่วมกัน
ด้าน นายบุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัทสหพัฒนพิบูล กล่าวว่า ดำเนินธุรกิจแบบประคองตัว เนื่องจากมีปัจจัยที่กระทบกำลังซื้อหลายเรื่อง โดยเฉพาะรายได้เกษตรตกจากราคาข้าวที่ลดลง ซึ่งคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวไม่เกินร้อยละ 3 แต่คาดว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี หากไม่มีปัจจัยลบที่เกินความคาดหมายเข้ามากระทบ ซึ่งคาดว่าปีนี้ยอดขายของเครือสหพัฒน์จะโตประมาณร้อยละ 5 จากยอดขายรวมปีก่อนอยู่ที่ 150,000 ล้านบาท
ส่วนทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลเศรษฐกิจของประเทศได้ดีระดับหนึ่ง จึงมองว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับปรุงการทำงาน รวมถึงเพิ่มทีมเศรษฐกิจด้วย ดังนั้น จึงไม่สามารถประเมินได้ว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ควรจะเข้ามาร่วมทีมเศรษฐกิจหรือไม่
สำหรับความเชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าธุรกิจจะยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่ภาคเอกชนมีความเข้าใจ เพราะจะให้รัฐบาลทำงานถูกใจทุกคนเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนควรต้องปรับปรุงการทำงานที่จะต้องพัฒนาขยายตลาดไปยังตลาดใหม่เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้มากขึ้น