โบรกฯ มองภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ หากมีข่าวดีกรีซจากฝั่งยุโรป แต่หากไร้ปัจจัยใหม่ก็มีโอกาสปรับลงแดนลบ พร้อมระบุ Fund Flow ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยน้อยที่สุดในกลุ่ม TIP และหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็ประเมินว่าเม็ดเงินก็จะไหลออกจากตลาดอินโดนีเซียมากที่สุดในกลุ่ม TIP จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตลาดบ้านเรายืนในแดนบวกได้
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ 4 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับกลุ่ม TIP คาดว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลจาข้อมูลเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ระบุว่า Fund Flow ที่ไหลออกใน 1 สัปดาห์ แม้ว่าจะไหลออกจากเอเชียมากถึง 9,300 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสัดส่วนหลักเป็นการขายออกจากตลาดหุ้นจีน และพบว่า Fund flow ไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ไม่มากนัก
นอกจากนั้น ยังพบว่าสำหรับตลาดหุ้นไทย Fund Flow ไหลออกน้อยที่สุด และหากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ประเมินว่าเม็ดเงินก็จะไหลออกจากตลาดอินโดนีเซียมากที่สุดในกลุ่ม TIP จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตลาดบ้านเรายืนในแดนบวกได้
ส่วนปัญหาหนี้ของกรีซมีข่าวล่าสุดออกมาว่า โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรป เปิดเผยว่า กรีซบรรลุข้อตกลงเป้าหมายงบประมาณปี 2015 กับ IMF แล้ว ก็น่าจะเป็นข่าวดีที่ช่วยหนุนตลาดฯ ได้
ด้าน นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พยายามที่จะยืนเหนือระดับ 1,500 จุด โดยตลาดฯ อยู่ในลักษณะทรงตัว แม้ว่าจะยังมีแรงกดดันจากปัญหาของกรีซ ซึ่งนักลงทุนกำลังรอผลการประชุม รมว.คลังยูโรโซน วันที่ 18 มิ.ย.นี้ ส่วนการประชุม FOMC วันที่ 16-17 มิ.ย. คาดว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงจะยังไม่ส่งสัญญาณใดๆ เพิ่มเติม
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบเล็กน้อย มีเพียงตลาดกลุ่ม TIP ที่ยืนอยู่ในแดนบวกได้ ขณะที่ตลาดเอเชียเหนือ ติดลบกันเป็นส่วนใหญ่ คาดว่าจะมาจากปัจจัยของแต่ละตลาด อย่างกรณีของตลาดจีน และฮ่องกงได้รับแรงกระทบจากเรื่องมาร์จิ้น ขณะที่ตลาดเกาหลี ก็รับผลลบจากการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์ส
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯ มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้หากนักลงทุนได้รับรู้ข่าวดีจากกรีซแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,510 จุด
อย่างไรก็ตาม นายเกียรติก้อง กล่าวว่า ตลาดฯ อาจจะลงมาเล่นในแดนลบได้ หากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่คงแกว่งกรอบแคบมาก โดยให้แนวรับ 1,496-1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,506-1,510 จุด