ประธานฯ เมย์แบงก์ กรุ๊ป ระบุมูลค่าการลงทุนประเทศลุ่มน้ำโขง หรือ GMS ขยายตัวเพิ่มขึ้น 21 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะไทยยังคงลงทุนต่อเนื่องเฉลี่ยสูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ชี้โครงการลงทุนพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยง GMS กับอาเซียนเสริมประโยชน์ให้ไทย
นายจอนห์ ชอง ประธานเข้าหน้าที่บริหารเมย์แบงก์ กรุ๊ป กล่าวสรุปถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจ และการค้าช่วงที่ผ่านมาของกลุ่มประเทศภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) ซึ่งกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2557 มีเงินลงทุนรวมของการส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม (CLMV) 21 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโต 13.7% ต่อปี
ขณะที่ประเทศไทยนั้นได้เคยมีการลงทุนในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2533 จนในปี 2557 มูลค่าการลงทุนของไทยในกลุ่มประเทศจึงมีสูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตเฉลี่ย 33% ต่อปีมาตั้งแต่ปี 2543 และคาดว่าการลงทุนในภูมิภาคนี้จะยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการที่ประเทศจีน อินเดียเริ่มที่จะให้ความสำคัญต่อการลงทุนใน GMS ในฐานะภูมิภาคที่เป็นเป้าหมาย และศูนย์กลางการลงทุน
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงศัยกภาพทางเศรษฐกิจของ GMS ในปีที่ผ่านมานี้ กลุ่มผู้นำในภูมิภาค GMS ได้เห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีของ GMS ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยเงินส่วนใหญ่นั้นจะใช้เพื่อสนับสนุนการปรับปรุง และพัฒนาระบบขนส่งที่จะอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า และบริการ ซึ่งโครงการนี้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ที่สำคัญที่สามารถวัดได้ให้แก่ประเทศไทย โดยการเชื่อมโยงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญภายในประเทศ รวมถึงการช่วยเพิ่มกิจกรรมทางการค้าระหว่างประเทศ
โดยโครงการใหญ่โครงการหนึ่ง คือ โครงการขนส่งทางรถไฟมูลค่า 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อช่วยสนับสนุนกิจกรรมการซื้อขายในภูมิภาคด้วยการเชื่อมโยงศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญในอาเซียน เช่น ไทย จีน สิงคโปร์ และมาเลเซีย เข้ากับภูมิภาค GMS และโครงการดังกล่าวนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเมย์แบงก์ กรุ๊ป ย้ำว่า จะก่อให้เกิดประโยชน์ที่สามารถวัดค่าได้ให้แก่ประเทศไทย