“ชัชชาติ” ประเมินศักยภาพโซนราชพฤกษ์เติบโตอย่างก้าวกระโดด ระบบคมนาคมพร้อม ยอมรับการแข่งขันดุเดือด เผยมีโครงการอยู่ระหว่างการขายถึง 21 โครงการ มูลค่า 21,900 ล้านบาท มีมูลค่าเหลือขายโครงการ 28% ของมูลค่าคงเหลือในราชพฤกษ์ ครึ่งปีหลังเปิดอีก 14 โครงการ มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “The Future is Here” กับ 21 โครงการ มอบส่วนลดสูงสุดถึง 2 ล้านบาท
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH กล่าวถึงศักยภาพของโซนราชพฤกษ์ว่า หากระบบสาธารณูปโภคของภาครัฐขยายตัวออกมาชานเมืองได้มาก การแข่งขันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดอยู่แล้ว สำหรับเครือ QH ถือว่าครองส่วนแบ่งยอดขายโครงการระดับกลาง-บนมากสุด และถือเป็นพื้นที่อันดับ 1 ของการลงทุนของบริษัทฯ
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโครงการที่ดำเนินการขายในโซนราชพฤกษ์ จำนวน 21 โครงการ มูลค่าการขายโครงการ 21,900 ล้านบาท โดยมีระดับราคาตั้งแต่ 1.3-140 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 15 โครงการ ทาวน์โฮม 4 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม ได้แก่ โครงการคาซ่า เพรสโต้ พระราม 5-ราชพฤกษ์ และโครงการ เดอะทรัสต์ ทาวน์โฮม ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ 2 ในวันที่ 6-7 มิถุนายนนี้ด้วย
“ภายใต้วิสัยทัศน์ และประสบการณ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนาน ได้เห็นถึงการพัฒนาศักยภาพของโซนราชพฤกษ์อย่างก้าวกระโดดมาโดยตลอด และได้ทำการศึกษารายละเอียดอย่างรอบด้าน ทั้งระบบคมนาคม และสิ่งแวดล้อม ฯลฯ รวมถึงการวางแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกระดับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการศึกษาของฝ่ายสำรวจและวิจัยที่อยู่อาศัย QH พบว่า อุปทานคงเหลือของตลาดรวมที่อยู่อาศัยแนวราบโซนราชพฤกษ์ในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 72,000 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าโครงการเหลือขายของบริษัทฯ ประมาณ 20,000 ล้านบาท คิดเป็น 28% ของมูลค่าคงเหลือขายรวมในโซนราชพฤกษ์ ทั้งนี้ ยอดขายในโซนดังกล่าว นับตั้งแต่ปี 55-57 มีอัตราเติบโตโดยรวมคิดเป็น 62% โดยรายได้หลักของเครือ QH จะมาจากบ้านกลุ่มระดับ 3-5 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามแผนในครึ่งหลังของปี 58 จะเปิดตัวโครงการแนวราบ-แนวสูงอีก 14 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท จากทั้งปี 26 โครงการ รวมมูลค่า 28,000 ล้านบาท” นายชัชชาติ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการ Q12 ย่านราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ราคา 90-150 ล้านบาท จำนวน 12 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งเปิดขายมาตั้งแต่ปลายปี 2554 คาดว่า ในไตรมาส 2 จะสามารถปิดการขายได้ 3 ยูนิต มูลค่า 320 ล้านบาท จากในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ไม่สามารถปิดการขายได้เลย คาดว่าในไตรมาส 3 สถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากรัฐบาลได้พยายามผลักดันกลไกทางเศรษฐกิจ ประกอบกับเป็นช่วงเบิกจ่ายงบประมาณด้วย จึงมั่นใจว่าภาพรวมตลาดน่าจะดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก
อีกทั้งยังมีแผนส่งเสริมการตลาดและกระตุ้นยอดขายโครงการในโซนราชพฤกษ์ โดยบริษัทฯ กำลังจะเปิดตัวแคมเปญ “The Future is Here” กับ 21 โครงการในโซนถนนราชพฤกษ์ มอบส่วนลดสูงสุดถึง 2,000,000 บาท เงื่อนไขตามที่โครงการกำหนด
“เราได้เล็งเห็นศักยภาพในโซนนี้มาโดยตลอด จึงเป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกๆ ที่ริเริ่มพัฒนาโครงการในโซนนี้ในหลายรูปแบบสินค้า และทุกระดับราคา ในราคาที่ผู้บริโภคเอื้อมถึง เพื่อรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคทั้งในวันนี้ และอนาคต เพราะเชื่อมั่นว่าตลาดบ้านในโซนราชพฤกษ์จะเป็นทำเลทองที่มีความต้องการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งศักยภาพของทำเลที่ลงตัวแบบนี้จะยิ่งทวีค่าและหาได้ยากในอนาคต” นายชัชชาติ กล่าว