“พีทีจี” คาดยอดขายปีนี้โตตามเป้าที่วางไว้ 15-20% จากปริมาณการใช้น้ำมันในสถานีบริการพีทีที่เพิ่มมากขึ้น เร่งดำเนินการสร้างคลังน้ำมันแห่งใหม่ พร้อมขยายสาขาสถานีบริการน้ำมัน พีที ครบ 1,200 แห่งทั่วประเทศ ล่าสุด ประเดิมเปิดสถานี LPG แล้ว พร้อมลุยเปิดอีกให้ครบ 30 แห่ง เน้นเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเป้ายอดขายในปีนี้เติบโต 15-20% รวมถึงกำไรสุทธิก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) ที่คาดว่าจะโตเพิ่มขึ้น 30-40% จากปีก่อน เนื่องจากจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น และปริมาณการใช้น้ำมันที่น่าจะเพิ่มขึ้น ดังจะเห็นได้จากปริมาณยอดขายน้ำมันในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ซึ่งมีสถิติยอดขายสูงสุดถึง 572 ล้านลิตร เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และไตรมาสก่อน ซึ่งเมื่อรวมถึงการขยายสถานีบริการน้ำมันพีที ที่คาดว่าจะขยายได้ครบ 1,200 สาขาในปีนี้ คาดว่าจะทำให้มีผู้ใช้น้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันพีทีเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ประกอบกับบริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างคลังน้ำมันแห่งที่ 10 เพื่อที่จะกระจายน้ำมันได้ครอบคลุมในทุกภาคส่วน จากปัจจุบันที่มีคลังน้ำมันอยู่แล้ว 9 แห่ง รวมถึงการการเข้าปรับปรุงพื้นที่สำหรับจัดตั้งโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ของบริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุน โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ภายในครึ่งปีแรกของปี 2558
“ปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการขยายสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่ที่มีศักยภาพทั้งหมด 250 สถานี โดยแบ่งเป็นสถานีบริการที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ หรือสถานีบริการแบบ COCO จำนวน 220 สถานี และสถานีบริการน้ำมันที่บริหารโดยตัวแทน หรือสถานีบริการแบบ DODO จำนวน 30 สถานี ในส่วนของสถานีบริการแก๊ซ LPG บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปีนี้ จำนวน 30 สถานี โดยมุ่งเน้นขยายสถานีในเขตกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล” นายพิทักษ์ กล่าว
นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มว่า สำหรับการบริหารจัดการของบริษัทฯ ในปีนี้ถือว่าสามารถทำได้อย่างดี เนื่องจากมีการบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้บริษัทฯ มีกำไรก้าวกระโดดในไตรมาสที่ผ่านมา แม้ว่าสถานการณ์น้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงความผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทฯ เชื่อว่าในส่วนที่เหลือของปีนี้ยังคงสามารถบริหารและจัดการต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
สำหรับผลการดำเนินการประจำไตรมาส 1 ปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย และบริการอยู่ที่ 14,388 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 823 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้น และ EBITDA อยู่ที่ 406 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 45.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน