ธีระมงคล อุตสาหกรรม เผยอยู่ระหว่างหาพันธมิตรต่อยอดธุรกิจเดิม หวังเพิ่มรายได้ และลดความเสี่ยงภาวะยอดขายหลอดไฟตก ปีนี้มั่นใจฟื้นกำไร และรายได้โต 20% หลังไตรมาสแรกมีทิศทางที่ดี มุ่งส่งออกสินค้าขายเพิ่ม หลังตลาดในประเทศซบ ตั้งเป้าส่งออกแตะ 20-25%
นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI ผู้ออกแบบผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง อุปกรณ์ควบคุมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหลอดไฟ และโคมไฟ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 58 เติบโต 20% จากปีก่อน และมั่นใจว่าปีนี้จะสามารถพลิกกับมามีกำไรได้ จากปี 2557 ที่ขาดทุน 1.31 ล้านบาท โดยเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรก ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทได้หันมามุ่งเน้นการส่งออก เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในประเทศ โดยหวังเพิ่มสัดส่วนการส่งออกแตะ 20-25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 15% โดยส่งออกไปมากกว่า 20 ประเทศ
พร้อมกันนี้ บริษัทอยู่ระหว่าง “การมองหาการลงทุนธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องต่อธุรกิจของหลักของบริษัท เพื่อเป็นการต่อยอด และเพิ่มรายได้ รวมถึงเป็นการลดความเสี่ยงในช่วงที่ยอดขายในธุรกิจหลอดไฟไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยการขยายธุรกิจจะทำในหลายรูปแบบ ทั้งการซื้อกิจการ หรือร่วมทุนกับพันธมิตร” นายธีระชัย กล่าว
ล่าสุด บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้ว จากเดิม 111,608,072 บาท เป็น 130,205,983.75 บาท ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 58 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้ มติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา บริษัทได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 เป็นเงิน 20.67 ล้านบาท ในรูปของหุ้นปันผล และเงินสด โดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 74,405,381 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.25 บาท ในอัตรา 6 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมเป็นปันผลจ่าย 18.60 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลในอัตรา 0.042 บาทต่อหุ้น และจ่ายปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 0.005 บาท เป็นเงิน 2.07 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายหุ้นปันผล และเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2558
“การแจ้งความจำนงการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 4 ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 จากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอร์แรนต์ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 หรือ TMI-W1 ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 55 จำนวน 191,999,994 หน่วย โดยอัตราการใช้สิทธิอยู่ที่วอร์แรนต์ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1.169 หุ้น และมีราคาใช้สิทธิของวอร์แรนต์ 0.25 บาทต่อหุ้น” นายธีระชัย กล่าว