xs
xsm
sm
md
lg

“มิตซูบิชิฯ” มั่นใจอสังหาฯ ไทยยังโต เดินหน้าร่วมลงทุน “เอพีฯ” เพิ่ม 5 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วิทการ จันทวิมล
“มิตซูบิชิ เอสเตทฯ” มั่นใจอสังหาฯ ไทยยังโตได้ เดินหน้าร่วมลงทุน “เอพีฯ” ตั้งเป้าปี 58 ลงทุน 5 โครงการ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท ด้านเอพีฯ เผย มิ.ย.ลุยเปิดคอนโดฯ 6 โครงการ มูลค่า 16,120 ล้านบาท มั่นใจยอดขายครึ่งปีแรก ทะลุ 12,700 ล้านบาท ล่าสุด เตรียมเปิด “ริธึ่ม รางน้ำ” 385 ยูนิต ปัจจุบัน ยอดลงทะเบียนจองทะลุ 3,200 ราย

นายฮิเดกิ นิชิคามิ ผู้อำนวยการและผู้บริหารอาวุโส บริษท มิตซูบิชิ จิโชเรสซิเดนท์ จำกัด ในเครือบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากนับจากนี้จากหลายปัจจัย ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของกลุ่มคนทำงานทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้น การเพิ่มขึ้น และการไหลของประชากรเข้ามาทำงานและอยู่อาศัยในกรุงเทพฯ มีครอบครัวขนาดเล็กเพิ่มมากขึ้น และการลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกสบายมากขึ้น

จากปัจจัยข้างต้น และศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทำให้บริษัทสนใจลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในไทย โดยเน้นโครงการคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้า และให้ผลตอบแทนในอัตราที่เหมาะสม ส่วนในระยะยาวยังมองโอกาสการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มมิตซูบิชิ มีศักยภาพการพัฒนาทุกรูปแบบ

“มองโอกาสการลงทุนในอสังหาฯ นอกประเทศ เนื่องจากได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศ เพราะปัจจุบันรัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนนักลงทุนให้ออกไปลงทุนนอกประเทศมากขึ้น โดยประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในเป้าหมายการลงทุนสำคัญในภูมิภาคอาเซียน เพราะเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ ในเอเชีย ซึ่งศักยภาพ และผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ”

ส่วนการลงทุนในไทยนั้นเริ่มเมื่อปลายปี 2556 บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ผ่านบริษัทร่วมทุน โดยลงทุนไปแล้ว 4 โครงการ ได้แก่ 1.ริธึ่ม อโศก 2 จำนวน 346 ยูนิต มูลค่า 1,500 ล้านบาท เปิดขายในไตรมาส 2/57 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 85% 2.ริธึ่ม สุขุมวิท 36-38 จำนวน 496 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,900 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 84% 3.แอสปาย รัชดา วงศ์สว่าง จำนวน 1,218 ล้านบาท มูลค่า 2,850 ล้านบาท ปัจจุบันยอดขาย 50% และ 4. แอสปาย สาทร-ท่าพระ จำนวน 1,218 ยูนิต มูลค่า 3,500 ล้านบาท รวม 3,292 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 10,750 ล้านบาท โดยโครงการแรกจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/59

จากความสำเร็จด้านยอดขายข้างต้น ทำให้มิตซูบิชิฯ สนใจที่จะร่วมลงทุนกับเอพีอย่างต่อเนื่องและเพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าลงทุนเพิ่ม 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งได้ข้อสรุปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ ริธึ่ม รางน้ำ และ ไลท์ อโศก ส่วนอีก 3 โครงการอยู่ระหว่างพิจารณา โดยลงทุนผ่านบริษัท เอเชี่ยน พร๊อพเพอร์ตี้ (2015) จำกัด โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นของแต่ละบริษัทในอัตรา AP 51% : MJRI ซึ่งเป็นบริษัทลูกของมิตซูบิชิ 49%

ด้าน นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 10 โครงการ มูลค่าโครงการ 28,110 ล้านบาท ในจำนวนนี้จะเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างมิตซูบิชิฯ 5 โครงการ ปัจจุบันเซ็นสัญญาร่วมทุนไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ “ไลฟ์ อโศก” จำนวน 1,642 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,300 ล้านบาท และโครงการ “ริธึ่ม รางน้ำ” จำนวน 385 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท บนเนื้อที่เกือบ 3 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดฯ สูง 27 ชั้น ขนาดตั้งแต่ 28-62 ตร.ม. ราคาขายเฉลี่ยต่อตร.ม. 1.7 แสนบาท หรือราคาเริ่มต้น 4.8 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการจะเปิดขายพร้อมกันวันที่ 25 มิถุนายนนี้ สำหรับโครงการ ริธึ่ม รางน้ำ ปัจจุบันมีลูกค้าลงทะเบียนจองแล้วกว่า 3,200 ราย

สำหรับคอนโดฯ ทั้ง 9 โครงการที่จะเปิดขายในปีนี้ บริษัทเตรียมจัดงานใหญ่ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 25 มิถุนายนนี้ 6 โครงการ และที่เหลือเปิดขายในช่วงครึ่งปีหลัง

ส่วนยอดขาย 4 เดือนแรกปีนี้ อยู่ที่ 6,800 คิดเป็น 54% ของเป้าครึ่งปีแรกวางไว้ 12,700 จากเป้ายอดขายรวมทั้ง 28,000 ล้านบาท สำหรับเป้ารายได้ 25,300 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ 11,000 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/58 ไปแล้ว 2,500 ล้านบาท ที่เหลืออีก 6,500 ล้านบาท รับรู้ในอีก 9 เดือนที่เหลือ มาจากโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด


กำลังโหลดความคิดเห็น