“ธวัชไชย สุทธิกิจไพศาล” CEO ใหม่ “อควา คอร์เปอเรชั่น” ประกาศเดินหน้าใช้ความรู้ ประสบการณ์เข้าบริหารงานสานต่อนโนยายเดิม พร้อมต่อยอดนำพาธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง ขณะไตรมาสแรกปีนี้ กำไรพุ่ง 136% มั่นใจปี 58 สร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจต่อผู้ถือหุ้น
นายธวัชไชย สุทธิกิจไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า หลังเข้ารับตำแหน่งในบริษัทตั้งแต่ต้นปี 58 จะใช้ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่สะสมมาเคยร่วมทำงานกับสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่ง เข้ามาปรับใช้บริหารสานต่อแผนขยายการลงทุน อีกทั้งต่อยอดสร้างความเติบโตให้ต่อเนื่องกันในทุกๆ ธุรกิจของกลุ่มที่มีการกระจายแหล่งที่มาของกำไร และรายได้อย่างดีอยู่แล้วจากหลายช่องทางประกอบด้วยธุรกิจสื่อโฆษณาในปีนี้ที่มีโอกาสขยายตัวได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าของ TCDC หรือบริษัท ไทย คอนซูมเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่ง AQUA ได้ซื้อมาจากผู้ถือหุ้นเดิม 1,169,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 69% ของทุนจดทะเบียน (1,694,000 หุ้น) ในราคาหุ้นละ 406.3302 บาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้ตามแผนการเพิ่มจำนวนพื้นที่ และลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีแผนที่จะนำธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าเข้าระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไปเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต สำหรับการลงทุนในธุรกิจพลังงานผ่านการถือหุ้นของบริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) ถือเป็นการลงทุนที่มีรายได้สม่ำเสมอ และมั่นคง ซึ่งมีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในอนาคตเพิ่มต่อเนื่อง โดยบริษัทพร้อมให้การสนับการลงทุนขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ พร้อมหาโอกาสการขยายการลงทุนใหม่ๆ
ขณะที่ส่วนผลประกอบการไตรมาสแรกในปี 58 ของ AQUA มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/58 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558) บริษัทมีกำไรรวม 65.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรรวม 27.79 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสที่ 1/58 อยู่ที่ 173.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดรับรู้รายได้ 104.31 ล้านบาท
“เชื่อว่าจะดีขึ้นอีกจากปีที่แล้วในทุกๆ ด้านจากธุรกิจจากแหล่งกำไร และรายได้ของบริษัทที่สามารถกระจายได้ดีจากหลายช่องทาง โดยเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ดีทั้งหมดตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการขยายการลงทุนของบริษัทที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้บริษัทเติบโต และมีความแข็งแกร่ง สามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่ดี และน่าพอใจให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ต่อไปในอนาคต” นายธวัชไชย กล่าว
นายธวัชไชย สุทธิกิจไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า หลังเข้ารับตำแหน่งในบริษัทตั้งแต่ต้นปี 58 จะใช้ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่สะสมมาเคยร่วมทำงานกับสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่ง เข้ามาปรับใช้บริหารสานต่อแผนขยายการลงทุน อีกทั้งต่อยอดสร้างความเติบโตให้ต่อเนื่องกันในทุกๆ ธุรกิจของกลุ่มที่มีการกระจายแหล่งที่มาของกำไร และรายได้อย่างดีอยู่แล้วจากหลายช่องทางประกอบด้วยธุรกิจสื่อโฆษณาในปีนี้ที่มีโอกาสขยายตัวได้ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าของ TCDC หรือบริษัท ไทย คอนซูมเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่ง AQUA ได้ซื้อมาจากผู้ถือหุ้นเดิม 1,169,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 69% ของทุนจดทะเบียน (1,694,000 หุ้น) ในราคาหุ้นละ 406.3302 บาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้ตามแผนการเพิ่มจำนวนพื้นที่ และลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทมีแผนที่จะนำธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าเข้าระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไปเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต สำหรับการลงทุนในธุรกิจพลังงานผ่านการถือหุ้นของบริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) ถือเป็นการลงทุนที่มีรายได้สม่ำเสมอ และมั่นคง ซึ่งมีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในอนาคตเพิ่มต่อเนื่อง โดยบริษัทพร้อมให้การสนับการลงทุนขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ พร้อมหาโอกาสการขยายการลงทุนใหม่ๆ
ขณะที่ส่วนผลประกอบการไตรมาสแรกในปี 58 ของ AQUA มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/58 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558) บริษัทมีกำไรรวม 65.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรรวม 27.79 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสที่ 1/58 อยู่ที่ 173.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดรับรู้รายได้ 104.31 ล้านบาท
“เชื่อว่าจะดีขึ้นอีกจากปีที่แล้วในทุกๆ ด้านจากธุรกิจจากแหล่งกำไร และรายได้ของบริษัทที่สามารถกระจายได้ดีจากหลายช่องทาง โดยเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ดีทั้งหมดตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการขยายการลงทุนของบริษัทที่เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้บริษัทเติบโต และมีความแข็งแกร่ง สามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่ดี และน่าพอใจให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ต่อไปในอนาคต” นายธวัชไชย กล่าว
