น้ำตาลบุรีรัมย์ กำไรพุ่ง 64% หลังประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลทรายได้ดี หนุนผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยเฉลี่ยเกือบแตะ 119 กิโลกรัมต่อตันอ้อย สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมกว่า 12 กิโลกรัมต่อตันอ้อย และยังส่งออกน้ำตาลทรายในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดโลก สะท้อนความแข็งแกร่งในธุรกิจน้ำตาลทราย แถมมีปัจจัยเสริมจากพลังงานทดแทนเป็นแรงผลักดันการเติบโต ด้านผู้บริหารมั่นใจไตรมาส 2/58 ทิศทางการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องแน่นอน หลัง COD โรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 2 ในระบบ FiT ดันรายได้ และกำไรพุ่ง
นายอนันต์ ตั้งตรงเวชกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BRR เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,417.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ปัจจัยการเติบโตที่ดีทั้งในแง่รายได้ และกำไรสุทธิมาจากการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตน้ำตาลทรายของกลุ่ม BRR ที่ดี โดยสามารถผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อย (ยิลด์) เฉลี่ยถึง 119 กิโลกรัม สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมโดยรวมกว่า 12 กิโลกรัม ที่ 106.64 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำตาลทรายต่อหน่วยลดลงหนุนขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจน้ำตาลทรายได้ดี
นอกจากนี้ BRR ยังทำสัญญาซื้อขายน้ำตาลทรายล่วงหน้าเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าได้สูงกว่าราคาน้ำตาลในตลาดโลก โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่งมอบน้ำตาลทรายไปแล้วกว่า 36% จากปริมาณการผลิตน้ำตาลทรายทั้งหมดในปีนี้ที่คาดว่าจะผลิตได้ 230,000 ตัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวข้างต้น สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจน้ำตาลทรายของกลุ่ม BRR เพื่อสร้างผลการดำเนินงานจากธุรกิจน้ำตาลทราย ขณะที่ธุรกิจพลังงานทดแทนจากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 1 ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ ให้แก่ กฟผ. ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการผลักดันกำไรสุทธิให้เติบโตได้ดีอีก
“ไตรมาส 1/58 เรายังผลักดันการเติบโตของผลการดำเนินงานได้ดี เนื่องจาก BRR มีฐานความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงของผลผลิตอ้อยจากชาวไร่ที่มีคุณภาพ และเครื่องจักรมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถสกัดค่าความหวานเพื่อผลิตเป็นน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยได้มากขึ้น และยังสามารถนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตมาต่อยอดสร้างรายได้ และกำไรที่ดีจากธุรกิจพลังงานทดแทนได้อีกด้วย จึงทำให้ผลการดำเนินงานของเราทำได้เป้าหมายที่ได้วางไว้” นายอนันต์ กล่าว
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทฯ มองว่ายังเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจพลังงานทดแทนที่บริษัทฯ ได้เริ่ม COD โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลแห่งที่ 2 อีก 8 เมกะวัตต์ ให้แก่ กฟผ.ในรูปแบบ FiT ซึ่งทำราคาขายต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจากเดิมหน่วยละ 3.60 บาท เป็น 4.53 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.93 บาทต่อหน่วย จึงคาดว่ารายได้รวมจากธุรกิจพลังงานทดแทนของ BRR ในปีนี้จะเพิ่มเป็น 450 ล้านบาท หรือทำสัดส่วนรายได้เป็น 10% จากเดิมที่มี 5% ของผลการดำเนินงานรวมของบริษัทฯ และยังทำให้สัดส่วนกำไรเพิ่มเป็นกว่า 30% จากเดิมที่มีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 20% ที่มาจากธุรกิจพลังงาน
“เรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานของ BRR จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำตาลทราย และผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลทรายซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นด้วย จึงมั่นใจว่าปีนี้จะเป็นปีที่ BRR ที่มีความโดดเด่นด้านผลการดำเนินงานที่ดีอย่างแน่นอน” นายอนันต์ กล่าว
