นักวิเคราะห์มองหุ้นเช้านี้ปรับรีบาวนด์ทางเทคนิค หลังร่วงต่อเนื่องมาพอสมควรแล้ว แต่ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยลบทั้งใน และต่างประเทศซึ่งอาจฉุดดัชนีปรับลงได้อีก พร้อมระบุที่ระดับดัชนี 1,480 จุด น่าจะทำให้นักลงทุนระยะยาวเข้ามาทยอยสะสมหุ้น อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติที่มียอดซื้อสะสมมาตั้งแต่ปี 52 ก็ได้ขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง จนทำให้มียอดสะสมเหลือไม่มากนัก คาดมีประมาณ 3 หมื่นล้าน
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 พ.ค.) ดัชนีภาคเช้าปรับตัวรีบานด์ และแกว่งตัวในกรอบ โดยเมื่อเวลา 10.42 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,489.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.27% มูลค่าการซื้อขาย 7,720.23 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ระบุว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับบวกได้เป็นการทำรีบาวนด์ในเชิงเทคนิค หลังจากก่อนหน้านี้ ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่องมามากแล้ว ซึ่งประเมินว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสผันผวน และปรับลดลงได้อีกหลังปัจจัยแวดล้อมยังไม่เป็นบวก
โดยตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งยุโรป และสหรัฐฯ ปรับลดลง ส่วนหนี่งมาจากความกังวลต่อปัญหาหนี้กรีซ หลังการประชุมระหว่างกรีซ และรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเมื่อวานนี้ที่มีการหารือประเด็นเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยคลี่คลายวิฤตหนี้ของกรีซนั้น แทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย
นอกจากนี้ การประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/58 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ทยอยออกมายังคงมีแนวโน้มไม่สดใสนัก อาจจะยังเป็นปัจจัยที่รบกวนต่อตลาดด้วย ประกอบกับมองว่านักลงทุนต่างชาติน่าจะยังคงมีการขายออกมาต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการปรับลดลงของดัชนีฯ จะอยู่ในกรอบจำกัดแล้ว หลังมองว่าดัชนีที่ระดับ 1,480 จุด น่าจะทำให้นักลงทุนระยะยาวเข้ามาทยอยสะสมหุ้นได้ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติที่มียอดซื้อสะสมมาตั้งแต่ปี 2552 ก็ได้ขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง จนทำให้มียอดสะสมเหลือไม่มากนักในราวกว่า 3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น โดยมองแนวรับวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ 1,480 และแนวต้านที่บริเวณ 1,500 จุด