เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ไตรมาสแรกปีนี้กำไรโตเฉียด 500% ผลดีจากค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารลดลง ขณะที่รายได้ก็ลดลง
น.ส.ฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ รักษาการเลขานุการบริษัท บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC แจ้งผลงานไตรมาสแรกปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิ 4.18 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 0.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.46 ล้านบาท หรือ 480.35% ผลจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
โดยไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้รวมของกลุ่มบริษัทสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 เมื่อเทียบกับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ลดลงจาก 234.38 ล้านบาท เป็น 156.98 ล้านบาท หรือลดลง 77.40 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.02 อันมีสาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้จากการผลิต และการจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และรายได้จากการขายวีซีดี และดีวีดีต้น ทุนผลิตบริการ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ทั้งนี้ บริษัทมีต้นทุนผลิตและบริการคือ ต้นทุนการผลิตและบริการของกลุ่มบริษัท สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 เมื่อเทียบกับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ลดลงจาก 152.51 ล้านบาท เป็น 110.38 ล้านบาท หรือลดลง 42.13 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27.62 สาเหตุหลักเกิดจากกลุ่มบริษัทมีรายได้ลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและบริการลดลงเช่นเดียวกัน
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของกลุ่มบริษัท สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 เมื่อทียบกับไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ลดลงจาก 78.88 ล้านบาท เป็น 43.40 ล้านบาท หรือลดลง 35.48 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.98 สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขาย จำนวน 24.30 ล้านบาท เนื่องจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 11.18 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 มีพิจารณาตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลูกหนี้การค้า จำนวน 9.02 ล้านบาท
น.ส.ฐิตาภัสร์ อิสราพรพัฒน์ รักษาการเลขานุการบริษัท บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC แจ้งผลงานไตรมาสแรกปี 58 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิ 4.18 ล้านบาท ขณะที่ปีก่อนมีกำไรสุทธิ 0.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.46 ล้านบาท หรือ 480.35% ผลจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
โดยไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้รวมของกลุ่มบริษัทสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 เมื่อเทียบกับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ลดลงจาก 234.38 ล้านบาท เป็น 156.98 ล้านบาท หรือลดลง 77.40 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.02 อันมีสาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของรายได้จากการผลิต และการจำหน่ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และรายได้จากการขายวีซีดี และดีวีดีต้น ทุนผลิตบริการ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ทั้งนี้ บริษัทมีต้นทุนผลิตและบริการคือ ต้นทุนการผลิตและบริการของกลุ่มบริษัท สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 เมื่อเทียบกับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ลดลงจาก 152.51 ล้านบาท เป็น 110.38 ล้านบาท หรือลดลง 42.13 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 27.62 สาเหตุหลักเกิดจากกลุ่มบริษัทมีรายได้ลดลง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตและบริการลดลงเช่นเดียวกัน
ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของกลุ่มบริษัท สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 เมื่อทียบกับไตรมาส สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557 ลดลงจาก 78.88 ล้านบาท เป็น 43.40 ล้านบาท หรือลดลง 35.48 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44.98 สาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขาย จำนวน 24.30 ล้านบาท เนื่องจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 11.18 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 มีพิจารณาตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลูกหนี้การค้า จำนวน 9.02 ล้านบาท