ปัจจัยต่างประเทศอิงในทางลบ แนะเป็นโอกาสในการซื้อสะสม ตลาดเริ่มเล่นเป็นรายตัว

หุ้นเช้าปรับลง 4.95 จุด เจอแรงขายกลุ่มพลังงาน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอิงในทางลบ แนะเป็นโอกาสในการซื้อสะสมเมื่อราคาหุ้นย่อตัวลงมา คาดแนวโน้มบ่ายอาจมีการเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 เม.ย.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,561.90 จุด ลดลง 4.95 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.32% มูลค่าการซื้อขาย 18,893.90 ล้านบาท โดยภาพรวมของเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ดัชนีแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,567.04 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,560.67 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ย่อตัวลงแต่ไม่แรงมาก โดยมีแรง take profit จากหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมา หลังจากที่ได้ปรับขึ้นนำตลาดในช่วง 2 วันทำการติดต่อปลายสัปดาห์ก่อน ส่วนหุ้นตัวอื่นๆ รอปัจจัยหนุนใหม่เข้ามาหนุน

ด้านปัจจัยจากนอกประเทศอิงทางลบเล็กน้อย โดยตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ ยกเว้นตลาดจีน อยู่ในแดนบวก รับแรงหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ขณะที่ดาวโจนส์ปรับตัวลงค่อนข้างมาก เป็นผลจากความกังวลปัญหากรีซ และ Earning บริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ downside มีจำกัด เนื่องจากยังมีความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้น เมื่อราคาหุ้นย่อตัวลงก็ยังเป็นโอกาสในการซื้อสะสม

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดหุ้นคงน่าจะแกว่งในกรอบ และอาจมีการเล่นเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัวได้ โดยให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,601.60 ล้านบาท ปิดที่ 355.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,265.82 ล้านบาท ปิดที่ 2.80 บาท ลดลง 0.08 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,021.23 ล้านบาท ปิดที่ 231.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

BBL มูลค่าการซื้อขาย 900.71 ล้านบาท ปิดที่ 188.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 598.53 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท ลดลง 0.50 บาท