หุ้นตอบรับเชิงบวกเฟดอาจขยายเวลาขึ้น ดบ. ออกไปก่อน แต่อาจเป็นผลในช่วงสั้น

หุ้นปิดครึ่งวันเช้าบวก 4.79 จุด ทิศทางเดียวกับภูมิภาค ตอบรับเชิงบวกเฟดอาจขยายเวลาขึ้น ดบ. ออกไปก่อน แต่ตรงนี้อาจเป็นแค่ผลในระยะสั้น เพราะสุดท้ายก็ต้องกลับมาดูที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ส่วนในประเทศเชื่อว่า คงจะไม่ได้เห็นการฟื้นตัวทาง ศก. ในช่วง H1/58 ทำให้ระยะสั้นตลาดฯ อาจจะผันผวนอยู่มาก

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (13 มี.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ระดับ 1,549.13 จุด เพิ่มขึ้น 4.79 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.31% มูลค่าการซื้อขาย 22,341.84 ล้านบาท โดยภาพรวมตลาดช่วงเช้า ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ดัชนีแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,551.86 จุด และแตะจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 1,542.32 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งอิงในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด จากยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ซึ่งตลาดตอบรับในแชิงบวกจากการมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อน แต่ตรงนี้มองว่าอาจเป็นแค่ผลในระยะสั้น เพราะสุดท้ายก็ต้องกลับมาดูที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก ซึ่งถ้าเศรษฐกิจดีก็ต้องมีการขยับมาทางด้านการเงิน

ส่วนบ้านเราก็ยังไม่เห็นภาพเศรษฐกิจไทยที่ดูดีขึ้น แม้จะมีความคาดหวัง แต่ก็ต้องรอการดำเนินการของรัฐฯ ก่อน แต่เชื่อว่าคงจะไม่ได้เห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจใน H1/58 ทำให้ระยะสั้นตลาดฯ อาจจะผันผวนอยู่มาก อีกทั้งสัปดาห์หน้าก็จะมีการประชุมเฟด ซึ่งก็คงจะยังไม่ส่งสัญญาณเรื่องของอัตราดอกเบี้ย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯ น่าจะยืนในแดนบวกได้อยู่ แต่ระหว่างทางอาจผันผวนได้ และตลาดฯ ก็ยังไม่ได้มีปัจจัยเด่นเข้ามาด้วย พร้อมให้ติดตามว่าดัชนีฯ จะยืนแนว 1,550 จุดได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ โดยให้แนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

MTLS มูลค่าการซื้อขาย 1,527.84 ล้านบาท ปิดที่ 20.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,233.31 ล้านบาท ปิดที่ 238.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

BWG มูลค่าการซื้อขาย 983.60 ล้านบาท ปิดที่ 9.55 บาท ลดลง 0.15 บาท

AJD มูลค่าการซื้อขาย 862.59 ล้านบาท ปิดที่ 2.02 บาท ลดลง 0.86 บาท

IFEC มูลค่าการซื้อขาย 821.27 ล้านบาท ปิดที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท