ตลาดหลักทรัพย์ mai เผยแผนส่งเสริมคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนด้วย 3 แนวทางหลัก เน้นให้ข้อมูลผ่านงานนักลงทุนสัมพันธ์ และสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการกำกับดูแลกิจการ ตลอดถึงการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดันร่าง Corporate Sustainability Advisory Program พัฒนาบริษัทจดทะเบียนให้เติบโตได้อย่างมีคุณภาพ
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai กล่าวว่า การพัฒนาคุณภาพบริษัทจดทะเบียนไทย เป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. และ ตลาดหลักทรัพย์ mai ที่ต้องการให้ตลาดทุนไทยเติบโตขึ้นได้อย่างยั่งยืน จะเห็นได้ว่าปัจจุบันการพิจารณาการลงทุนของผู้ลงทุนทั่วโลกได้นำเรื่องการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้เสีย ใน 3 ด้าน ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (environment) สังคม (society) และบรรษัทภิบาล (governance) หรือ ESG มาเป็นประเด็นสำคัญในการตัดสินใจลงทุน ซึ่งเห็นได้จากการพัฒนาดัชนีที่คัดกรองหลักทรัพย์จากบริษัทจดทะเบียนที่ใส่ใจต่อผลกระทบด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น เช่น S&P Dow Jones Indices ที่ออกดัชนี DJSI และ MSCI ที่ออกดัชนี MSCI World ESG Index เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน เป็นต้น
“จะเห็นได้ว่าแนวทางการพัฒนาบริษัทจดทะเบียนอย่างยั่งยืนนั้น “ขนาดไม่สำคัญ” เพราะถ้าเราเป็นคนดีที่ทำธุรกิจอย่างยั่งยืนแล้ว ขนาดของธุรกิจไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่อย่างใด สิ่งที่สำคัญ คือ ผู้บริหารเห็นความสำคัญ และเป็นผู้ขับเคลื่อนให้ความยั่งยืนเกิดขึ้นได้ในองค์กร รวมถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกคนในองค์กรจะเป็นพลังนำพาให้ธุรกิจประสบความสำเร็จเติบโตพร้อมดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน”
ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากแผนการสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทจดทะเบียน ซึ่ง mai ผลักดันผ่านการใช้เครื่องมือทางการเงินต่างๆ เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนได้รับประโยชน์จากการอยู่ในตลาดทุนอย่างคุ้มค่า มีทีมพัฒนาบริษัทจดทะเบียน mai เข้าพบ และให้คำแนะนำด้านต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการการเติบโตรายบริษัท ตลอดจนสร้างเครือข่ายเพื่อการต่อยอดทางธุรกิจผ่านความร่วมมือกับสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai หรือ maiA อีกทั้งยังส่งเสริมพัฒนาเชิงคุณภาพให้แก่บริษัทจดทะเบียนใน mai โดยวางแนวทางหลัก 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนางานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ หรือ IR ผ่านโครงการ IR Advisory Program และการอบรมผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ บจ.สามารถสื่อสารข้อมูลต่อผู้ลงทุนกลุ่มต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนางานด้านการกำกับดูแลกิจการ หรือ CG โดยมีทีมเข้าเยี่ยมรายบริษัท เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของการดำรงอยู่ของธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินงานได้เข้มแข็ง และสามารถเติบโตได้รวดเร็ว อีกทั้ง พัฒนางานด้านการส่งเสริมความยั่งยืน หรือ Sustainable Development ผ่านการอบรม สัมมนาให้ความรู้ พร้อมทั้งผลิตสื่อความรู้ในรูปแบบต่างๆ
ทั้งนี้ ในการส่งเสริมความยั่งยืนที่ผ่านมา mai ได้ดำเนินการผ่านโครงการ Corporate Sustainability Advisory Program เพื่อสร้างบริษัทจดทะเบียนขนาดกลาง และเล็กที่เป็นต้นแบบของการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมี 5 บริษัทใน mai เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) บมจ.จี แคปปิคตอล (GCAP) บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง (PPS) บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) และ บมจ.ทีวีไดเร็ค (TVD) ซึ่งจากการดำเนินโครงการทำให้เห็นว่าการสร้างความยั่งยืนที่เหมาะสมต่อองค์กร คือ ต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่องค์กรมีอยู่แล้ว และที่สำคัญ คือ ต้องเริ่มต้นจากผู้นำที่ต้องเห็นความสำคัญ และสามารถสร้างการมีส่วนร่วมจากพนักงานทุกระดับ ซึ่งจะมีส่วนช่วยผลักดันให้การดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรประสบผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จำนวน 113 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 9 เมษายน 2558) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 714.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.07% จากต้นปี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 427,563 ล้านบาท อัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (p/e) อยู่ที่ 76.48 เท่า มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 4,891 ล้านบาทต่อวัน