ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ กับราคาทองคำ
หลังจากที่ตลาดต่างรอคอยตัวเลขสำคัญของตลาดแรงงานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งก็คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม สรุปได้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 126,000 ตำแหน่ง ในเดือน มี.ค.จากระดับ 264,000 ตำแหน่งในเดือน ก.พ. โดยเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2013 ซึ่งจะเห็นได้ว่า การปรับตัวลงในครั้งนี้ถือเป็นการยืนในระดับต่ำที่สุดในรอบปี สร้างผลกระทบต่อการคาดการณ์ของนโยบายการเงินสหรัฐฯ เป็นอย่างยิ่ง
โดยในช่วงเวลาประกาศตัวเลขดังกล่าวนั้นตลาดทองคำสหรัฐฯ ปิดทำการ แต่เราสามารถพิจารณาผลกระทบได้จากตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สของไทย ซึ่งมีการปรับตัวขึ้นทันที 110 บาทต่อสัญญา ขณะที่เมื่อราคาทองคำสหรัฐฯ เริ่มเปิดทำการ ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุด 1,224.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าการทิ้งตัวลงของตัวเลขดังกล่าวได้สร้างความคิดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อน โดยดอยช์ แบงก์ กล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานเดือน มี.ค.ออกมาน่าผิดหวังอย่างมาก ซึ่งทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ และอาจจะทำให้เฟดต้องเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป จากเดิมที่คาดว่าอาจจะปรับขึ้นในเดือน มิ.ย. ทางด้าน นายเดวิด สต็อคตัน อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเฟด (ช่วงปี 2543-2554) แสดงความเห็นว่า มีแนวโน้มมากขึ้นว่าเฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. แต่อย่างไรก็ตาม อย่างที่เคยพูดเสมอๆ ว่า เราไม่มีทางรู้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อไรกันแน่ ทำให้สิ่งที่นักลงทุนควรคิดไว้ตลอดเวลาคือ การบริหารความเสี่ยงซึ่งสามารถทำได้ด้วยการกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้งที่เข้าลงทุน