ผู้ถือหุ้น “ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้” อนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.07 บาท/หุ้น แจกวอร์แรนต์ฟรีในสัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ เตรียมรับตังค์เข้ากระเป๋าหลังสงกรานต์ ด้านผู้บริหาร “สมพล ธนาดำรงศักดิ์” เผยเตรียมเพิ่มกำลังการผลิต 30% หลัง Warehouse ใหม่สร้างเสร็จ ตั้งเป้ายอดกวาดยอดขายในปี 58 กว่า 2.1 พันล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15%
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2558 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนใหม่ 300.59 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อใช้รองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอแรนต์) จำนวนไม่เกิน 300.59 ล้านหน่วยที่จะจัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอแรนต์ เพื่อนำเงินมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยจะออกวอแรนต์ FPI-W1 จำนวนไม่เกิน 300.59 ล้านหน่วย อายุ 3 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น ที่ราคาการใช้สิทธิหุ้นละ 2 บาท พร้อมกันนี้ ยังได้อนุมัติการเพิ่มทุนใหม่เพื่อรองรับการแปลงสภาพวอร์แรนต์ หรือจำนวน 300.59 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็น 75.15 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 395.15 ล้านบาท จากเดิมที่ 320 บาท
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการใช้สิทธิมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท สำหรับการดำเนินงานในอนาคต และลงทุนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะที่การเพิ่มทุนจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท เพื่อให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินโครงการต่างๆ ในอนาคต และเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงมีเงินทุนเพียงพอเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการลงทุนในธุรกิจของบริษัทในอนาคต
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2557 เป็นเงินสดในอัตรา 0.07 บาท/หุ้น ปิดสมุดทะเบียนรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 17 เม.ย.2558 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เมษายน 2558
สำหรับแผนการดำเนินงานปีนี้ นายสมพล กล่าวว่า FPI เตรียมเพิ่มอัตรากำลังการผลิตเพิ่มอีก 30% หลังจาก Warehouse แห่งใหม่สร้างเสร็จในช่วงปลายมีนาคมปีนี้ ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนต่อหน่วยลง และทำมาร์จิ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม” นายสมพล กล่าว
ส่วนยอดขายในปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 2,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะมาจาก 2 ส่วนที่สำคัญคือ การเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มอีก 30% หลังจาก Warehouse หลังใหม่สร้างเสร็จในเดือนมีนาคม และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายของบริษัทร่วมทุนในเอกวาดอร์
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิ 199.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.70% เมื่อเทียบกับปี 2556