ผู้ว่าฯ ธปท. มองการยกเลิกกฎอัยการศึกจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ชี้มาตรา 44 ควรใช้ชั่วคราว เพื้่อดูแลความสงบในประเทศ ย้ำไม่กังวลหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มมาอยู่ที่ 85.9% ของจีดีพี
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลจะยกเลิกกฎอัยการศึก และใช้มาตรา 44 แทนนั้น น่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ แต่ยอมรับว่าฝ่ายบริหารต้องมีเครื่องมืออื่นในการดูแลรักษาความสงบ ซึ่งการที่รัฐบาลจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวแทนนั้น ก็ควรต้องชี้แจงอธิบายว่าการใช้กฎหมายดังกล่าวอยู่ภายใต้เงื่อนไข และควรใช้ชั่วคราวเท่านั้น
ส่วนกรณีที่กรมการบินพลเรือนของไทย ไม่ผ่านมาตรฐานขององค์การการบินระหว่างประเทศ หรือไอซีเอโอ ทำให้เกิดการยกเลิกเที่ยวบินจากไทยไปญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ กำลังพิจารณายกเลิกตามมานั้น ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวบ้าง โดยเฉพาะขาออก ส่วนขาเข้าไม่น่าจะมีปัญหา ยังมีสายการบินอื่นที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยได้ ซึ่งถือเป็นบทเรียนที่รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งแก้ไขให้ได้ตามมาตรฐานของไอซีเอโอ เพื่อสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง ส่วนปัจจัยดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไทยหรือไม่นั้นยังไม่ได้มีการประเมินในขณะนี้ แต่ยืนยันว่า เศรษฐกิจขณะนี้ค่อยๆ ฟื้นตัว ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนไตรมาส 1 ปีนี้ โดยประเมินจีดีพีทั้งปีไว้ที่ร้อยละ 3.8
สำหรับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น โดยไตรมาส 4/2557 อยู่ที่ร้อยละ 85.9 จากไตรมาส 3/2557 อยู่ที่ร้อยละ 84.7 ของจีดีพี ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า ไม่ควรต้องกังวลมาก เพราะอัตราการเร่งตัวชะลอตัวลงแล้วเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหนี้ที่เพิ่มขึ้น สาเหตุเนื่องจากจีดีพีโตน้อย รายได้ประชาชนน้อยลง
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธปท. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ยังฟื้นตัวช้า โดยการใช้จ่ายภาคเอกชน และครัวเรือนยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย ขณะที่การส่งออกได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีน และอาเซียนที่ชะลอตัวลดร้อยละ 6 ต้องติดตามสถานการณ์ส่งออกต่อไป โดย ธปท. ยังคงการขยายตัวส่งออกปีนี้ที่ร้อยละ 0.8 ส่วนอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำติดลบอยู่ที่ร้อยละ 0.52 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องกัน 2 เดือนนั้น ยืนยันว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้อยู่ในภาวะเงินฝืด เนื่องจากไม่ได้มาจากราคาสินค้าปรับตัวลดลง แต่มาจากราคาพลังงานที่ลดลง ขณะเดียวกัน ประชาชนไม่ได้ชะลอการบริโภค เพราะหวังว่าราคาสินค้าในอนาคตจะปรับลดลง