การเคหะแห่งชาติ โชว์ยอดขาย 5 เดือนแรกปีงบประมาณ 58 แพกเกจ 1 ยอดขาย 7,649 หน่วย ขณะที่บ้านเอื้ออาทร สามารถส่งมอบบ้านกว่า 3,430 หน่วย จากเป้ารวมจำนวน 8,390 หน่วย แจงพร้อมลุยขายต่อทุกช่องทางทุกทีม เผยบ้านเอื้ออาทรยังครองใจลูกค้า
นายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานล่าสุดในการขายโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติในรอบ 5 เดือน ของปีงบประมาณ 2558 ประกอบด้วย โครงการพิเศษและบริการชุมชนหรือโครงการแพกเกจ 1 ยอดขายตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.2557-วันที่ 28 ก.พ.2558 จำนวนโครงการทั้งสิ้นที่นำมาขาย 38 โครงการ รวม 15,946 หน่วย ทำยอดขายได้รวม 7,649 หน่วย
ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทร สรุปยอดขายตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2557-วันที่ 31 ม.ค.2558 เป้าหมายการส่งมอบประจำปี 2558 จำนวน 8,390 หน่วย สามารถสรุปผลดำเนินงานรวม 3,430 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 104 ของเป้าหมาย 4 เดือน คิดเป็นร้อยละ 41 ของเป้าหมายทั้งปี โดยแบ่งเป็นการยื่นกู้ต่อสถาบันการเงิน จำนวน 2,717 หน่วย การเช่าซื้อ จำนวน 569 หน่วย เช่าซื้อ จำนวน 144 หน่วย และยอดขายที่ขายได้ในงานเคหะพลัส เมื่อวันที่ 5-11 มี.ค. 58 ที่ผ่านมา ขายได้ จำนวน 249 หน่วย
การขายโครงการบ้านเอื้ออาทร ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้โครงการบ้านเอื้ออาทรถือว่าประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย แต่ปัจจุบันทำยอดขายได้เกินเป้าหมายไปแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์เศษของแผนงาน ถึงว่าเกินเป้าหมาย เหตุผลที่ทำให้ยอดขายเป็นไปด้วยดีเนื่องจากทีมการขายของฝ่ายการตลาด และสำนักงานดูแลชุมชนที่เข้ามาช่วยในการบริหารงานด้านการขาย ส่งผลให้การขายบ้านเอื้ออาทรเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ถึงแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะมีการชะลอตัวก็ตาม แต่บ้านของการเคหะแห่งชาติ ยังเป็นปัจจัยสี่ที่ลูกค้ายังคงมีความต้องการเป็นเจ้าของ
อย่างไรก็ตาม การขายโครงการบ้านเอื้ออาทรยังคงเปิดการขายต่อเนื่องในเชิงรุกซึ่งเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ทั้งจากทีมขายปกติ และทีมสำนักงานบริหารชุมชนที่เข้ามาช่วยขาย นอกจากทีมสำนักงานบริหารชุมชนแล้ว ทางฝ่ายการตลาดและการขายก็ได้ส่งทีมงานนักออกแบบ สถาปนิก และวิศวกรเข้าไปลงพื้นที่ในการออกบูทขายต่อฝ่ายการขายทุกแห่งเวลาเปิดขายโครงการด้วย ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของการเคหะแห่งชาติที่ส่งทีมงานสถาปนิก วิศวกร ไปออกบูทขาย เพราะสามารถอธิบายแบบลูกค้าเข้าใจ
นายสุภัคร กล่าวว่า หลังจากนี้ไปในเดือนเมษายน หลังจากที่บอร์ดการเคหะแห่งชาติ ได้ประชุมสรุป และจัดทำแผนบูรณาการของการเคหะแห่งชาติแล้ว ทางทีมการตลาดและการขาย ตลอดจนทีมสำนักงานดูแลชุมชนกว่า 80 แห่ง ที่เข้ามาช่วยกันเรื่องการขายโครงการบ้านเอื้ออาทรก็จะยังเดินหน้าช่วยการขายต่อไป ตามแผนงานที่ทีมการตลาดจะได้ประชุมสรุป และกำหนดทิศทางให้อีกครั้งของแผนงานครึ่งปีหลังที่เหลืออยู่อีก 6 เดือนของปีงบประมาณนี้
โดยการขายบ้านเอื้ออาทร ก็จะดำเนินการทุกรูปแบบ ทั้งจากพนักงานขายของการเคหะแห่งชาติเอง จากบริษัทเอกชนที่เข้ามารับบริหารการขายจากการเคหะแห่งชาติภายใต้การกำกับดูแลของการเคหะฯ ใช้ระบบทั้งไดเรกต์ และการออกบูท และจากนี้ไป ทุกงานมหกรรมรณรงค์การขายโครงการของการเคหะแห่งชาติ ก็จะนำเอาโครงการบ้านเอื้ออาทรไปร่วมขายด้วยตลอดไป เพราะลูกค้าบ้านเอื้ออาทร มีความต้องการตลอด เพราะบ้านเอื้ออาทรยังเป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องการและมีกำลังซื้อเสมอไม่ว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจจะชะลอตัวก็ตาม เพราะบ้านยังคงเป็นปัจจัย 4 ที่การเคหะฯ สร้างขึ้นมาขายในราคาที่ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ในเงื่อนไขการการผ่อนชำระที่ทำได้ไม่ยากและลูกค้าเข้าถึง
