xs
xsm
sm
md
lg

“KBS” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 5% ยันโรงไฟฟ้าช่วยหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

 นายทัศน์ วนากรกุล  กรรมการผู้จัดการ บมจ.น้ำตาลครบุรี หรือ  KBS
ASTVผู้จัดการรายวัน - น้ำตาลครบุรี ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่น้อยกว่า 5% แม้วิกฤตราคาน้ำตาลทั่วโลกดิ่งหนัก แต่เชื่อยังคงเชื่อมั่นรายได้จากโรงไฟฟ้าช่วยหนุน แย้มเตรียมปรับโครงสร้างการผลิตน้ำตาลใหม่ทั้งระบบ เพื่อเพิ่มศักยภาพโรงไฟฟ้า และลดต้นทุนการสั่งซื้อวัตถุดิบ

นายทัศน์ วนากรกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.น้ำตาลครบุรี หรือ KBS กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการของปี 2558 คาดว่าจะเติบโตขึ้นไม่น้อยกว่า 5% เทียบจากปี 2557 ที่บริษัทฯ มีรายได้รวมกว่า 6,304.54 ล้านบาท และมีกำไรที่ 318.68 ล้านบาท เนื่องจากในปีที่ผ่านมา ราคาอ้อยมีต้นทุนที่สูง และค่าเงินของบราซิลปรับตัวลดลง ทำให้กดดันต่อราคาจำหน่ายอ้อย และน้ำตาลในตลาดโลก ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ เตรียมที่จะมีการปรับสัดส่วนในการผลิตน้ำตาลใหม่ทั้งระบบเพื่อลดต้นทุนการสั่งซื้อกากอ้อยเข้าสู่โรงไฟฟ้า และเพิ่มน้ำตาลดิบที่มีราคาถูกในท้องตลาดไปสู่กระบวนการผลิตเอทานอลเพื่อเพิ่มรายได้ให้บริษัทฯ มากขึ้น

“สืบเนื่องจากราคาน้ำตาลตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงขณะนี้อุปสงค์ของปริมาณความต้องการน้ำตาลในตลาดโลกมีมากกว่าอุปทานที่มีอยู่ อีกทั้งค่าเงินของบราซิล ที่ปรับตัวลดลง ยังกดดันให้ราคาน้ำตาลไม่สามารถปรับขึ้นมาได้ ทำให้ส่งผลกระทบต่อโรงงานน้ำตาล และเกษตรกรทั่วโลก”

อย่างไรก็ดี แม้ว่าราคาน้ำตาลในขณะนี้จะปรับตัวลดลง แต่บริษัทยังคงมีความได้เปรียบในส่วนของการนำน้ำตาลทรายดิบมาแปรรูปผลิตเป็นเอทานอล เนื่องจากปริมาณความต้องการเอทานอลมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และสามารถนำมาใช้ทดแทนมันสัมปะหลังซึ่งเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบหลักในการผลิตเอทานอลได้อย่างดี ทั้งนี้ ปริมาณคงค้างน้ำตาลทรายดิบของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 4-5% ซึ่งถือว่าไม่กระทบต่อรายได้ และค่าเสื่อมราคาการจัดเก็บ เนื่องจากในขณะนี้ตลาดน้ำตาลพรีเมียมมีความต้องการในตลาดเป็นปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก ซึ่งการนำน้ำตาลทรายดิบที่มีอยู่ไป ไปผลิตเป็นน้ำตาลพรีเมียม นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าแล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาน้ำตาลล้นตลาดได้อีกด้วย

ขณะที่ในส่วนของการขยายตลาดไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนที่เตรียมการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนนั้น ถือว่าประเทศไทยมีความได้เปรียบประเทศเพื่อนบ้านในหลายด้าน ทั้งสภาพอากาศ พื้นที่เพาะปลูกอ้อย ความรู้ของเกษตรกร และเทคโนโลยีของโรงงานผู้ผลิตน้ำตาลซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุด แม้ว่าปัญหาราคาน้ำตาลทรายดิบยังอยู่ในช่วงที่ราคาตกต่ำ แต่น้ำตาลทรายขาว ยังคงมีช่องทางการจำหน่ายที่จะเติบโตในกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และเครื่องดื่มจากประเทศกำลังพัฒนาทั่วภูมิภาคอาเซียนได้อย่างดี

ขณะเดียวกัน ในส่วนของรายได้จากโรงไฟฟ้า กำลังการผลิต 35 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าในปีนี้จะมีรายได้จากโรงไฟฟ้าประมาณ 550 ล้านบาท และกำไรที่ 150-180 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะขายไฟให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต จำนวน 22 เมกะวัตต์ และส่วนที่เหลือนำมาใช้ในโรงงานงาน โดยบริษัทฯ เตรียมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในการส่งอ้อยเข้าโรงหีบเพิ่มขึ้นจากเดิมซึ่งอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน/ปี เป็น 2.9-3 ล้านตัน/ปี ทำให้ได้ปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้นถึง 20,000 ตัน/ปี และกากอ้อยและส่วนที่เหลือจากการผลิตน้ำตาลสามารถส่งเข้าสู่กระบวนการผลิตเอทานอล และโรงไฟฟ้าได้ทั้งหมด

“บริษัทฯ อยู่ในช่วงของการศึกษาข้อมูลหลักเกณฑ์ข้อกำหนดนโยบายพลังงานหมุนเวียนแบบใหม่จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการกำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ หรือ Feed-in Tariff (FIT) ว่าจะมีความค้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ ซึ่งบริษัทได้ตั้งงบลงในระยะ 2 ปี (2558-2559) ไว้ที่ประมาณ 4,200 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบลงทุนด้านการขยายกำลังการผลิตอ้อยและน้ำตาล 3,100 ล้านบาท และอีก 1,200 ล้านบาท จะใช้ในกระบวนการเพิ่มศักยภาพการผลิตเอทานอลให้ได้ 200,000 ลิตร/วัน”

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะใช้เครื่องมือทางการเงินจากสถาบันในอัตราส่วน 2:1 โดยส่วนที่เหลือจะใช้จากกระแสเงินสดของบริษัท และเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้แก่กลุ่มมิตซุยที่เข้ามาถือหุ้นร่วมจำนวน 16.7% ทำให้บริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะเพิ่มทุนในช่วงระยะเวลา 5 ปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น