ลีซ อิท ขยายฐานลูกค้าเอกชนเพิ่ม หลังแบงก์คุมเข้มปล่อยกู้เอสเอ็มอี “สมพล เอกธีรจิตต์“” เผยเตรียมกระสุนเต็มแม็ก พร้อมปล่อยสินเชื่อเต็มเหนี่ยว ย้ำ “ลีซ อิท” ไม่ใช่ “ลีซ ไอที” มีโปรดักต์ทางการเงินหลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็น “ลีสซิ่ง-แฟกตอริ่ง-ไฮ เพอร์เชส-โปรเจกต์ไฟแนนซ์” เล็งออกหุ้นกู้วงเงิน 500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 2/58 มั่นใจพอร์ตสินเชื่อรวมทะลุ 1,000 ล้านบาทตามแผนแน่
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT เปิดเผยว่า แม้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะส่งสัญญาณชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขการส่งออกของที่ชะลอตัว ความเชื่อมั่นการบริโภค และการลงทุนของภาคเอกชนยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเตรียมปรับลดประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลงจากเดิมที่คาดว่าปี 2558 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4% ซึ่งทำให้ธนาคารพาณิชย์คุมเข้มปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าเอกชน เนื่องจากบริษัทมีการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เห็นได้จากตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ซึ่งอยู่ในระดับต่ำเพียง 2% เท่านั้นเมื่อเทียบกับสินเชื่อรวม
“ผมมองว่าเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าภาคเอกชน โดยบริษัทมีการเพิ่มวงเงินปล่อยสินเชื่อแฟกตอริ่งให้แก่ลูกค้าเอสเอ็มอีมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” นายสมพล กล่าว
ที่ผ่านมา บริษัทจะให้วงเงินสินเชื่อแฟกตอริ่งเอสเอ็มอีรายใหม่อยู่ในระดับวงเงินประมาณ 100 ล้านบาท/เดือนเท่านั้น แต่ในปีนี้มีแผนเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 200 ล้านบาท เพราะความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้มีสูง เนื่องจากสถาบันการเงินยังไม่กล้าปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้ากลุ่มนี้มากนัก เนื่องจากยังไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ ล่าสุด ใน 2 เดือนที่ผ่านมา ต้องถือว่าผลงานเข้าเป้าตามที่วางไว้โดยได้เพิ่มวงเงินให้สินเชื่อแฟกตอริ่งลูกค้าเอสเอ็มอีรายใหม่ได้มากถึง 245 ล้านบาททีเดียว
“การที่ กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ส่วนหนึ่งช่วยทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยของบริษัทปรับตัวลดลง และในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้วงเงินประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อเตรียมสภาพคล่องไว้สำหรับปล่อยสินเชื่อ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าพอร์ตสินเชื่อรวมในปีนี้จะแตะที่ระดับ 1,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน” นายสมพล กล่าว
นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท ยังกล่าวอีกว่า อยากให้นักลงทุนเข้าใจในธุรกิจของ “ลีซ อิท” ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ใช่ “ลีซ ไอที” (ปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ) สินค้าไอทีให้แก่บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) (SVOA) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทเพียงเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว “ลีซ อิท” มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อสัญญาเช่าทางการเงิน (ลีสซิ่ง) สินเชื่อเช่าซื้อ (ไฮ-เพอร์เชส) สินเชื่อแฟกตอริ่ง หรือการรับซื้อลูกหนี้ทางการค้า และสินเชื่อประเภทเทรด และโปรเจกค์ไฟแนนซ์ รวมถึงสินเชื่อเพื่อการออกหนังสือค้ำประกันเข้าประมูลงาน ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลายครบวงจร โดยปัจจุบัน ได้มีการปรับพอร์ตลูกหนี้เพื่อรองรับการขยายตัวเชิงรุก โดยได้เพิ่มพอร์ตลูกหนี้ภาคเอกชนจากเดิมในสัดส่วน 20% มาเป็น 30% ในขณะที่ยังคงให้น้ำหนักหนี้ภาครัฐในสัดส่วนที่สูงอยู่เป็น 70% ซึ่งคาดหวังได้ว่าจะช่วยเพิ่มมาร์จิ้นให้กับบริษัท