ผู้บริหาร “แฟนซีวู๊ด อินสตรีส” แจงการขายหุ้นของผู้ถือหุ้น 3 ราย ให้กับนักลงทุนรายใหม่ 2 ราย “อำพันธ์ แปงคำ-ภูวราธนกุลราเชนทร์” ราคาหุ้นละ 3.50 บาท เพื่อต้องการลดสัดส่วนการถือหุ้นและนำเงินไปใช้ส่วนตัว กอปรกับมีอายุมากขึ้น ยันเป็นการลงทุนและเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทไม่มีนโยบายในการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารอีกทั้งไม่มีนโยบายในการตั้งตนเองหรือส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทแต่ประการใด
นายวิชัย ตันพัฒนรัตน์ กรรมการ บริษัท แฟนซีวู๊ด อินสตรีส จำกัด (มหาชน) หรือ FANCY ชี้แจงถึงการขายหุ้นของนายปิติ ตันพัฒนรัตน์ จำนวน 51,139,200 หุ้น คิดเป็น 10.8 % ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ให้แก่ นางสาวอำพันธ์ แปงคำ ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นและนำเงินสดไปใช้จ่ายส่วนตัวประกอบกับธุรกิจส่วนตัวไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท และการขายหุ้นของนายพงษ์สันต์ ลีลาปราชญ์ และ นางพรทิพย์ ชูพินิจศักดิ์ จำนวน 50,391,000 หุ้น และจำนวน 32,208,000 หุ้น ตามลำดับ คิดเป็น 10.72% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท และ 6.85% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทตามลำดับ ให้แก่นายภูวราธนกุลราเชนทร์ ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท เพื่อลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้บริหาร ประกอบกับมีอายุมากและต้องการนำเงินสดไปใช้จ่ายส่วนตัวซึ่งการขายหุ้นของทั้ง 3 รายดังกล่าวข้างต้น มีผลทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้น10 รายแรก เป็นดังนี้
ก่อนการเปลี่ยนแปลง PERSHING LLC 55,512,000 หุ้นหรือ 11.811%
นายปิติ ตันพัฒนรัตน์ 51,139,200หุ้นหรือ 10.881% นายพงษ์สันต์ ลีลาปราชญ์ 50,391,000 หุ้น หรือ 10.721%, นายชาญชัย ลีลาปราชญ์ 50,274,100 หุ้นหรือ 10.697% นายปิยะ ลีลาปราชญ์ 47,110,200 หุ้น หรือ 10.023%, นางพรทิพย์ ชูพินิจศักดิ์ 32,208,000 หุ้น หรือ 6.853%, MR.LEE, BIN 17,887,500 หุ้น หรือ 3.806%, นายโกวิท หลินสรัล 10,100,000 หุ้น หรือ 2.149% MISSLEE, CHEN SU-TSEN 7,252,500 หุ้น หรือ 1.543% และนายวุฒ ว่องไวพาณิชย์ 6,798,700 หุ้นหรือ 1.447%
ขณะที่ภายหลังการขายหุ้นดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเป็นดังนี้คือ นายภูวรา ธนกุลราเชนทร์ 82,599,000 หุ้น หรือ 17.574%, PERSHING LLC 55,512,000 หุ้น หรือ 11.811%, นางสาวอำพันธ์ แปงคำ 51,139,200 หุ้น หรือ 10.881%, นายชาญชัย ลีลาปราชญ์ 50,274,100 หุ้น หรือ 10.697%, นายปิยะ ลีลาปราชญ์ 47,110,200 หุ้น หรือ 10.023%, MR.LEE, BIN 17,887,500 หุ้น หรือ 3.806%, นายโกวิท หลินสรัล 10,100,000 หุ้น หรือ 2.149%, MISSLEE, CHEN SU-TSEN 7,252,500 หุ้น หรือ 1.543%, นายวุฒ ว่องไวพาณิชย์ 6,798,700 หุ้น หรือ 1.447% และ นายสุรชัย ฟองอมรกุล 5,600,000 หุ้นหรือ 1.191%
โดยบริษัทชี้แจงว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นภายหลังการทำรายการซื้อหุ้นดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงกรรมการ, อำนาจกรรมการ และผู้บริหาร เนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลงยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ที่ยังคงมีอำนาจการจัดการบริหารและดำเนินธุรกิจตามแผนงานเดิม ซึ่งนางสาวอำพันธ์ คำแปง และนายภูวรา ธนกุลราเชนทร์ มีความประสงค์ลงทุนและเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทเท่านั้น ไม่มีนโยบายในการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารอีกทั้งไม่มีนโยบายในการตั้งตนเองหรือส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท แต่ประการใด
ขณะที่การดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงเป็นไปตามแผนงานเดิม คือ การผลิตไม้ปาร์ติเกิลบอร์ดและการแปรรูปไม้ท่อนยางพารา ที่โรงงานของบริษัท จังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งนางสาวอำพันธ์ แปงคำ ตามโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ถือหุ้นประมาณร้อยละ 10.88 และนายภูวรา ธนกุลราเชนทร์ ตามโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ถือหุ้นประมาณร้อยละ 17.57 ซึ่งผู้ซื้อรายใหม่ทั้ง 2 รายแม้จะมีสัดส่วนการซื้อหุ้นเมื่อนำมารวมกันประมาณร้อยละ 28.45 แต่ผู้ซื้อทั้ง 2 รายดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้อง, เกี่ยวโยงหรือมีความสัมพันธ์หรือเป็นกลุ่มเดียวกันตามประกาศของคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
นายวิชัย ตันพัฒนรัตน์ กรรมการ บริษัท แฟนซีวู๊ด อินสตรีส จำกัด (มหาชน) หรือ FANCY ชี้แจงถึงการขายหุ้นของนายปิติ ตันพัฒนรัตน์ จำนวน 51,139,200 หุ้น คิดเป็น 10.8 % ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ให้แก่ นางสาวอำพันธ์ แปงคำ ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท เพื่อลดสัดส่วนการถือหุ้นและนำเงินสดไปใช้จ่ายส่วนตัวประกอบกับธุรกิจส่วนตัวไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท และการขายหุ้นของนายพงษ์สันต์ ลีลาปราชญ์ และ นางพรทิพย์ ชูพินิจศักดิ์ จำนวน 50,391,000 หุ้น และจำนวน 32,208,000 หุ้น ตามลำดับ คิดเป็น 10.72% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท และ 6.85% ของทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทตามลำดับ ให้แก่นายภูวราธนกุลราเชนทร์ ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท เพื่อลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายใหญ่และผู้บริหาร ประกอบกับมีอายุมากและต้องการนำเงินสดไปใช้จ่ายส่วนตัวซึ่งการขายหุ้นของทั้ง 3 รายดังกล่าวข้างต้น มีผลทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้น10 รายแรก เป็นดังนี้
ก่อนการเปลี่ยนแปลง PERSHING LLC 55,512,000 หุ้นหรือ 11.811%
นายปิติ ตันพัฒนรัตน์ 51,139,200หุ้นหรือ 10.881% นายพงษ์สันต์ ลีลาปราชญ์ 50,391,000 หุ้น หรือ 10.721%, นายชาญชัย ลีลาปราชญ์ 50,274,100 หุ้นหรือ 10.697% นายปิยะ ลีลาปราชญ์ 47,110,200 หุ้น หรือ 10.023%, นางพรทิพย์ ชูพินิจศักดิ์ 32,208,000 หุ้น หรือ 6.853%, MR.LEE, BIN 17,887,500 หุ้น หรือ 3.806%, นายโกวิท หลินสรัล 10,100,000 หุ้น หรือ 2.149% MISSLEE, CHEN SU-TSEN 7,252,500 หุ้น หรือ 1.543% และนายวุฒ ว่องไวพาณิชย์ 6,798,700 หุ้นหรือ 1.447%
ขณะที่ภายหลังการขายหุ้นดังกล่าว จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเป็นดังนี้คือ นายภูวรา ธนกุลราเชนทร์ 82,599,000 หุ้น หรือ 17.574%, PERSHING LLC 55,512,000 หุ้น หรือ 11.811%, นางสาวอำพันธ์ แปงคำ 51,139,200 หุ้น หรือ 10.881%, นายชาญชัย ลีลาปราชญ์ 50,274,100 หุ้น หรือ 10.697%, นายปิยะ ลีลาปราชญ์ 47,110,200 หุ้น หรือ 10.023%, MR.LEE, BIN 17,887,500 หุ้น หรือ 3.806%, นายโกวิท หลินสรัล 10,100,000 หุ้น หรือ 2.149%, MISSLEE, CHEN SU-TSEN 7,252,500 หุ้น หรือ 1.543%, นายวุฒ ว่องไวพาณิชย์ 6,798,700 หุ้น หรือ 1.447% และ นายสุรชัย ฟองอมรกุล 5,600,000 หุ้นหรือ 1.191%
โดยบริษัทชี้แจงว่า โครงสร้างผู้ถือหุ้นภายหลังการทำรายการซื้อหุ้นดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงกรรมการ, อำนาจกรรมการ และผู้บริหาร เนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมก่อนการเปลี่ยนแปลงยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่ที่ยังคงมีอำนาจการจัดการบริหารและดำเนินธุรกิจตามแผนงานเดิม ซึ่งนางสาวอำพันธ์ คำแปง และนายภูวรา ธนกุลราเชนทร์ มีความประสงค์ลงทุนและเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทเท่านั้น ไม่มีนโยบายในการเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้บริหารอีกทั้งไม่มีนโยบายในการตั้งตนเองหรือส่งตัวแทนเข้ามาเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท แต่ประการใด
ขณะที่การดำเนินธุรกิจของบริษัทยังคงเป็นไปตามแผนงานเดิม คือ การผลิตไม้ปาร์ติเกิลบอร์ดและการแปรรูปไม้ท่อนยางพารา ที่โรงงานของบริษัท จังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งนางสาวอำพันธ์ แปงคำ ตามโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ถือหุ้นประมาณร้อยละ 10.88 และนายภูวรา ธนกุลราเชนทร์ ตามโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ ถือหุ้นประมาณร้อยละ 17.57 ซึ่งผู้ซื้อรายใหม่ทั้ง 2 รายแม้จะมีสัดส่วนการซื้อหุ้นเมื่อนำมารวมกันประมาณร้อยละ 28.45 แต่ผู้ซื้อทั้ง 2 รายดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้อง, เกี่ยวโยงหรือมีความสัมพันธ์หรือเป็นกลุ่มเดียวกันตามประกาศของคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
