“หม่อมอุ๋ย” คาดอีซีบีอัดฉีด 6 หมื่นล้านยูโรเข้าระบบในรอบนี้ น่าจะมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเหมือนกับในรอบแรก เมื่อช่วงเดือน ม.ค.58 ซึ่งทำให้ดัชนีฯ ดีดไปที่ 1,600 จุด
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า กรณีธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อัดฉีดเงินเข้าระบบ 6 หมื่นล้านยูโรรอบใหม่ที่จะเริ่มในวันที่ 9 มี.ค.นี้ โดยมองว่าอาจจะมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเหมือนกับการใช้มาตรการ QE รอบแรกในช่วงเดือน ม.ค.58 ที่มีเงินไหลเข้ามาลงทุนในหลายตลาด รวมถึงไทย ซึ่งทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยดีดตัวขึ้นไปจาก 1,500 จุด ไปที่ 1,600 จุด
ขณะที่การเติบโตเศรษฐกิจปี 58 นั้น การจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตตามที่ตั้งไว้ 4% คงต้องตัดภาคการส่งออกออกไป ทำให้พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอดีตที่เคยมี 4 เครื่องยนต์ แต่ขณะนี้พึ่งพิงได้เพียง 2 เครื่องยนต์ คือ การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายลงทุนภาครัฐ
เนื่องจากการส่งออกไม่เติบโต ทำให้ไม่มีการลงทุนเพื่อเก็บสต๊อกสินค้า ส่วนการลงทุนระยะยาวก็ต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นต้องอีดฉีดการลงทุนภาครัฐให้เร็วที่สุด และทำอย่างไรก็ได้ให้คนใช้เงินเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ราคาสินค้าเกษตรสำคัญของไทยอย่างข้าว และยางพารานั้นทราบว่ายังปรับขึ้นราคไม่ได้ เพราะสต๊อกยังไม่หมด แต่จะทำอย่างไรไม่ให้ขาดทุน และไม่ให้มีหนี้เพิ่ม ซึ่งการใส่เงินช่วยเหลือเกษตรกรทั้งข้าว และยางก็รู้อยู่แล้วว่าจะไม่เป็นหนี้เพิ่ม
ส่วนเงินแก้ปัญหาเกษตรกรประสบภัยแล้งซ้ำซากตำบลละ 1 ล้าน จำนวน 3 พันกว่าตำบล ได้ทยอยจ่ายเงินไปตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ คาดว่าจะอนุมัติเสร็จราวเดือนเมษายนทั้งหมด
ส่วนข้อเรียกร้องจากภาคเอกชนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้น คงไม่ขอก้าวก่ายคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับหรือไม่