ตลท.เผย บจ.ไทยรายงานผลดำเนินงานปี 57 กำไรสุทธิรวมกว่า 7 แสนล้านบาท ปรับตัวลดลง 11.31% จากงวดเดียวกันปีก่อน แม้ว่า ศก.ในประเทศเติบโตในอัตราไม่สูงมาก แต่ บจ. ยังคงมียอดขายเติบโตจากปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18.48% ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า ถึงแม้ว่า บจ. จะมีกำไรสุทธิลดลง แต่หากไม่นับรวมรายการพิเศษ บจ. จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.81%
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียนใน SET จำนวน 526 บริษัท หรือคิดเป็น 97.95% จากทั้งหมด 537 บริษัท (ไม่รวมบริษัทในกลุ่ม NC และ NPG) นำส่งผลการดำเนินงานงวดปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.57 โดย บจ. มีกำไรสุทธิจำนวน 435 บริษัท คิดเป็น 82.70% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด มียอดขายรวมเท่ากับ 11,512,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.61% จากงวดเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 701,594 ล้านบาท ลดลง 11.31% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากกำไรสุทธิของหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ปรับลดลง เนื่องจากผลขาดทุนสินค้าคงคลัง และสต๊อกน้ำมันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงในช่วงครึ่งหลังของปี 57 และจากการรับรู้ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ในบางบริษัท
โดยในปี 57 เศรษฐกิจในประเทศเติบโตในอัตราไม่สูงมาก แต่ บจ. ใน SET ยังคงมียอดขายเติบโตจากปีก่อน และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 18.48% ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า แม้ว่า บจ. มีกำไรสุทธิลดลงแต่หากไม่นับรวมรายการพิเศษ บจ.จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1.81%
ทั้งนี้ หมวดธุรกิจที่มีทั้งกำไรสุทธิ และยอดขายเพิ่มขึ้นเรียงลำดับตามมูลค่ากำไรสุทธิสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ หมวดธนาคาร หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม และหมวดประกันภัยและประกันชีวิต โดยมีกำไรสุทธิรวม 58.06% ของกำไรสุทธิรวม และมียอดขายรวม 23.20% ของยอดรวมทั้งหมด
สำหรับผลการดำเนินงานของ บจ. ไตรมาส 4/57 มียอดขายรวม 2,832,080 ล้านบาท ลดลง 3.44% จากงวดเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 68,301 ล้านบาท ลดลง 58.87% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลกระทบจากหมวดธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีเป็นหลัก ด้านอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.18 เท่า ลดลงจาก 1.25 เท่า ในปี 56