ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์ หรือ TH พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 21.10 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 20.86 ล้านบาท หลังมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย และค่าเสียโอกาสจากเงินมัดจำซื้อเงินลงทุนในสปริงนิวส์ พร้อมมีมติเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมอัตรา 2:1 ราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท และแจกวอร์แรนต์ฟรีในอัตรา 3 หุ้นเดิมต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ “ประจวบ ตันตินนท์” ผู้บริหารมืออาชีพ ชูศักยภาพ ตงฮั้วมีดีมากกว่าที่คิด หลังกำลังรุกสู่ธุรกิจค้าปลีกโลว์คอสต์ เปิดสาขาแรกไตรมาส 2/2558 เล็งเปิดสาขา 14 สาขาในปีนี้
นายประจวบ ตันตินนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TH ผู้ประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน ประกอบด้วย หนังสือพิมพ์ภาษาจีน สถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ดิจิตอล และศูนย์ค้าปลีกราคาประหยัด DEEDEE ภายใต้บริษัท ดีดี ธัญการย์ เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดปี 2557 มีกำไรสุทธิ 21.10 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.0308 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีผลขาดทุน 20.86 ล้านบาท ซึ่งมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 41.96 หรือคิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 200 จากรายได้รวมงวดปี 2557 อยู่ที่ 170.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 133.41 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.16 ทั้งนี้ สาเหตุหลักที่กำไรเปลี่ยนแปลงกว่าร้อยละ 200 มาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อย คือ บริษัท มิลล์เลี่ยน ไมล์ส จำกัด (MM) และรายได้ค่าเสียโอกาสจากเงินมัดจำซื้อเงินลงทุนในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติงดจ่ายปันผล พร้อมกับมีมติให้ลดทุนจดทะเบียนจากเดิม 1,159,998,983 บาท เหลือ 1,024,998,983 บาท โดยยกเลิกหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้จำหน่าย จำนวน 135,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท และมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 1,345,166,667 หุ้น จากเดิม 1,024,998,983 หุ้น เป็น 2,370,165,650 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท โดยคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 482,500,000 หุ้น เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) อัตรา 2 ต่อ 1 ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท และเพื่อรองรับการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน และจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัด (private placement) จำนวน 500 ล้านหุ้น โดยบริษัทจะกำหนดราคาเสนอขายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด (หรือมีส่วนลดไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของราคาตลาด)