บอร์ด “เอสทีพี แอนด์ ไอ” ยกเลิกการซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้ง หมดของ “คลัฟ (ประเทศไทย)” จากผู้ถือหุ้นเดิม อ้างผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับและความเสี่ยงไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในระหว่างการขยายเวลาครั้งล่าสุด การยกเลิกสัญญาดังกล่าวจึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และเป็นการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมมากกว่า
นางอาทิตยา ชาญวีรกูล เลขานุการบริษัท บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI แจ้งว่า เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2556 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้ง หมดของ บริษัท คลัฟ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CTL จากผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อดำเนินธุรกิจด้านผลิตโครงสร้างเหล็ก ซึ่งบริษัทฯ ได้นำส่งสารสนเทศการได้มาซึ่งสินทรัพย์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 และแจ้งความคืบหน้าให้ผู้ถือหุ้นทราบเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2557 และ 29 ธันวาคม 2557 แล้วนั้น
โดย บริษัทฯ แจ้งว่า เมื่อ20 สิงหาคม 2556 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ซื้อ หุ้นทั้งหมดของ CTL และมีกำหนดการชำระค่าหุ้นและโอนหุ้นภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ขณะที่ 15 กรกฎาคม 2557 บริษัทฯ ได้ตกลงขยายระยะเวลากำหนดการชำระค่าหุ้นและโอนหุ้น หรือ Completion Date ครั้งที่ 1 เป็นภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 จากเดิม ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557
ทั้งนี้ ผู้ขายได้ขอขยายระยะเวลาการชำระค่าหุ้นและโอนหุ้น ดังกล่าว เนื่องจากผู้ขายยังไม่สามารถจัดการให้ CTL ดำเนินงานตามสัญญาโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันและส่งมอบงานให้ลูกค้าเรียบร้อยภายในกำหนดเดิมในวันที่ 30 มิถุนายน 2557
อย่างไรก็ดี เมื่อ 26 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ ได้ตกลงขยายระยะเวลากำหนดการชำระค่าหุ้นและโอนหุ้น ครั้งที่ 2 เป็นภายในวันที่ 31 มกราคม 2558 จากเดิม ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เนื่องจาก ผู้ขายได้ขอขยายระยะเวลา Completion Date ดังกล่าว เนื่องจากผู้ขายยังไม่สามารถจัดการให้ CTL ดำเนินการเจรจาปิดงานโครงการและโอนภาระผูกพันออกไปได้ครบถ้วน จึงถือว่ายังไม่ครบเงื่อนไขการซื้อขายหุ้นที่ตกลงกันไว้ บริษัทฯ เห็นว่าการขยายเวลาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ มากกว่า จึงตกลงรับคำขอนี้ จากผู้ขาย
โดยเมื่อ 30 มกราคม 2558 โดยความเห็นของที่ปรึกษากฎหมายและมติที่ประชุมของฝ่ายจัดการ ซึ่งได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัทฯ แล้ว บริษัทฯเห็นควรให้ยกเลิกการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ โดยยกเลิกการเข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้ง หมดของบริษัท คลัฟ (ประเทศไทย) จำกัด จากผู้ถือหุ้นเดิม เพราะบริษัทฯ เห็นว่า ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับและความเสี่ยงไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในระหว่างการขยายเวลาครั้งล่าสุดการยกเลิกสัญญาดังกล่าว จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และเป็นการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมมากกว่า
นางอาทิตยา ชาญวีรกูล เลขานุการบริษัท บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI แจ้งว่า เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2556 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ โดยเข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้ง หมดของ บริษัท คลัฟ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CTL จากผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อดำเนินธุรกิจด้านผลิตโครงสร้างเหล็ก ซึ่งบริษัทฯ ได้นำส่งสารสนเทศการได้มาซึ่งสินทรัพย์ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2556 และแจ้งความคืบหน้าให้ผู้ถือหุ้นทราบเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2557 และ 29 ธันวาคม 2557 แล้วนั้น
โดย บริษัทฯ แจ้งว่า เมื่อ20 สิงหาคม 2556 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ซื้อ หุ้นทั้งหมดของ CTL และมีกำหนดการชำระค่าหุ้นและโอนหุ้นภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ขณะที่ 15 กรกฎาคม 2557 บริษัทฯ ได้ตกลงขยายระยะเวลากำหนดการชำระค่าหุ้นและโอนหุ้น หรือ Completion Date ครั้งที่ 1 เป็นภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 จากเดิม ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2557
ทั้งนี้ ผู้ขายได้ขอขยายระยะเวลาการชำระค่าหุ้นและโอนหุ้น ดังกล่าว เนื่องจากผู้ขายยังไม่สามารถจัดการให้ CTL ดำเนินงานตามสัญญาโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันและส่งมอบงานให้ลูกค้าเรียบร้อยภายในกำหนดเดิมในวันที่ 30 มิถุนายน 2557
อย่างไรก็ดี เมื่อ 26 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ ได้ตกลงขยายระยะเวลากำหนดการชำระค่าหุ้นและโอนหุ้น ครั้งที่ 2 เป็นภายในวันที่ 31 มกราคม 2558 จากเดิม ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เนื่องจาก ผู้ขายได้ขอขยายระยะเวลา Completion Date ดังกล่าว เนื่องจากผู้ขายยังไม่สามารถจัดการให้ CTL ดำเนินการเจรจาปิดงานโครงการและโอนภาระผูกพันออกไปได้ครบถ้วน จึงถือว่ายังไม่ครบเงื่อนไขการซื้อขายหุ้นที่ตกลงกันไว้ บริษัทฯ เห็นว่าการขยายเวลาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ มากกว่า จึงตกลงรับคำขอนี้ จากผู้ขาย
โดยเมื่อ 30 มกราคม 2558 โดยความเห็นของที่ปรึกษากฎหมายและมติที่ประชุมของฝ่ายจัดการ ซึ่งได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัทฯ แล้ว บริษัทฯเห็นควรให้ยกเลิกการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ โดยยกเลิกการเข้าซื้อหุ้นสามัญและหุ้นบุริมสิทธิทั้ง หมดของบริษัท คลัฟ (ประเทศไทย) จำกัด จากผู้ถือหุ้นเดิม เพราะบริษัทฯ เห็นว่า ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับและความเสี่ยงไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในระหว่างการขยายเวลาครั้งล่าสุดการยกเลิกสัญญาดังกล่าว จึงน่าจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ และเป็นการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมมากกว่า