xs
xsm
sm
md
lg

CIMB ชี้ ปชช.ยังขาดความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ และไม่นำเงินออกมาใช้จ่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธ.ซีไอเอ็มบีฯ คาดที่ประชุม กนง. คงดอกเบี้ย 2% ในการหารือวันที่ 28 ม.ค.นี้ ระบุประชาชนยังขาดความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ และหันเก็บออมเงินมากขึ้น และไม่นำเงินมาใช้จ่าย สะท้อนจากพฤติกรรมในการบริโภคตั้งแต่เดือน พ.ย.ปีที่แล้ว

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 28 มกราคมนี้ คาดว่าที่ประชุมน่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ โดยจะรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 4 จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อย่างเป็นทางการอีกครั้ง และอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปเดือนมีนาคมนี้ หากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัวต่อเนื่อง

นายอดิศร กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนยังขาดความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงเลือกที่จะออมเงินมากกว่านำมาใช้จ่าย สะท้อนได้จากพฤติกรรมของผู้บริโภคตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เงินฝากระยะยาวมากขึ้น และหากนับตั้งแต่ต้นปี 2558 จนถึงขณะนี้ ซีไอเอ็มบี มียอดเงินฝากแล้วทั้งสิ้น 4,000-5,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารออกผลิตภัณฑ์เงินฝากต้อนรับเทศกาลตรุษจีน และวาเลนไทน์ ภายใต้ชื่อ “ตรุษจีนอินเลิฟ” ประเภทเงินฝากประจำดอกเบี้ยสูง เช่น เงินฝากประจำพิเศษ 17 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 3.25 ต่อปี เงินฝากประจำพิเศษ 5 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 2.6 ต่อปี คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี โดยคาดเป้าเงินฝากจากแคมเปญนี้ 5,000-6,000 ล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากเป้าหมายเงินฝากทั้งปี 20,000 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 14

ส่วนการแข่งขันในธุรกิจเงินฝากปีนี้คงจะไม่รุนแรงมาก เห็นได้จากการที่ธนาคารพาณิชย์เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง แต่ยังคงได้รับความสนใจจากบรรดาผู้ออม ส่วนภาพรวมสินเชื่อปีนี้คาดว่าจะขยายตัวอัตราใกล้เคียงกับเงินฝาก แต่อาจจะต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้ความต้องการสินเชื่อมีปริมาณจำกัด โดยซีไอเอ็มบี คาดการณ์ว่า สินเชื่อรายย่อยปีนี้จะขยายตัวประมาณ 20,000 ล้านบาท ลดลงจากปี 2557 ที่ขยายตัว 24,000 ล้านบาท

นายอดิศร กล่าวถึงแนวทางการลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) โดยเชื่อว่า จะสามารถลดเอ็นพีแอลจากปัจจุบันที่ร้อยละ 2.4 ให้เหลือร้อยละ 2.2 ได้ภายในปีนี้ เนื่องจากธนาคารมีมาตรการจูงใจด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 18 ให้แก่ผู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น