“SLC” เอาจริงเดินหน้าฟ้อง NMG เรียกค่าเสียหายพันล้าน ย้ำการซื้อหุ้นเพิ่มทุน NMG เป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์ตามปกติ และไม่ได้ใช้เงินทุนจากกลุ่มชินวัตรตามที่กล่าวหา พร้อมปัดข่าวลือการเข้าถือหุ้นมีเป้าหมายปลด พนง.-ผู้บริหารบางคน “อารักษ์” แจงข่าวดังกล่าว กระทบหุ้น PP ที่จะออกในวงเงิน 600 ล้านบาท มั่นใจหานักลงทุนได้ทันกำหนดเดือน ต.ค.นี้
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีปัญหาเข้าไปถือหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG จนกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งในการครอบงำสื่อ ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ระบุว่า เป้าหมายของ SLC จะมีการเข้าไปปลดพนักงาน รวมถึงผู้บริหารในเครือเนชั่นนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ต้องการลงทุนจากสิ่งที่เนชั่นสร้างสมมา นั่นก็คือ ทรัพยากรบุคคลเหล่านั้นซึ่งถือว่ามีคุณภาพสูง โดยหากบริษัทฯ ปฏิบัติตามกระแสข่าวลือดังกล่าวถือว่าผิดหลักการบริหาร และไม่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น เพราะทาง SLC ได้ยืนยันแล้วว่า จะไม่มีการแทรกแซงใดๆ ในการถือหุ้น NMG ครั้งนี้เป็นการเข้าลงทุนระยะยาวเท่านั้น
ส่วนการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 600 ล้านบาท ที่ถูกยกเลิกไป หลังมีข่าวการซื้อหุ้น NMG ซึ่งตนเองมั่นใจว่า จะสามารถหานักลงทุนเข้ามาซื้อได้แน่นอน โดยเชื่อว่าจะมีผู้ลงทุนรายใหม่เข้ามาใช้สิทธิแทน และดำเนินการได้ทันกำหนดภายในเดือน ต.ค.นี้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนหลายราย
ทั้งนี้ หุ้นเพิ่มทุน PP ดังกล่าว บริษัทฯ ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวงเงิน 750-780 ล้านบาท โดยจะใช้นำไปขยายธุรกิจในเครือ ซึ่งมีกำหนดครบอายุจากวันที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติในเดือน ต.ค.นี้ จึงมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อแผนการขยายธุรกิจของ SLC
โดยเช้าวันนี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของ SLC และนายอารักษ์ ได้เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อยื่นฟ้องคอ 2 สำนวน โดยสำนวนแรกยื่นฟ้อง นายธนา ทุมมานนท์ คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ และอีกสำนวนคือ ฟ้องนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ผู้บริหาร NMG ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ทั้งนี้ สำนวนที่ฟ้องนายธนา เนื่องจากเห็นว่าจำเลยกล่าวหาโจทก์โดยใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ เนื่องจากการซื้อหุ้นเพิ่มทุน NMG เป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์ตามปกติ และไม่ได้ใช้เงินทุนจากกลุ่มชินวัตรตามที่กล่าวหา
อีกทั้งข้อกล่าวหาว่าจะเข้าไปครอบงำสื่อไม่เป็นความจริง เนื่องจากปัจจุบัน SLC ถือหุ้นในสปริงนิวส์ 99.99% แต่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวต่อการบริหารงาน การกระทำของจำเลยจึงส่งผลเสียหายต่อโจทก์ทำให้หุ้นที่เตรียมจะขายถูกยกเลิก ได้รับความเสียหายประมาณ 600 ล้านบาท และสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายประมาณ 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ เนื่องจากโจทก์เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว การดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวกับหุ้นจะต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว จึงไม่ใช่การดำเนินการที่มีความซ่อนเร้น และปัญหาภายในเนชั่น ก็เป็นเรื่องภายในไม่เกี่ยวกับการที่ SLC จะเข้าไปซื้อหุ้นแต่อย่างใด
ดังนั้น ที่มีการกล่าวว่าจะเข้าไปปลดใครในเนชั่นจึงไม่เป็นความจริง และที่อ้างว่าได้มอบหมายให้นายเสริมสิน สมะลาภา รองประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้น NMG ไปรวบรวมหุ้นให้ หรือผู้บริหาร SLC เดินทางไปฮ่องกงเพื่อรับเงินทุนจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่เป็นความจริง