ปธ. ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้ดัชนีจะปรับลงไปลึกกว่า 10% แต่อัตราเงินปันผลของตลาดหุ้นไทยยังสูงกว่าประเทศอื่น ย้ำไม่ควรตื่นตระหนกต่อข่าวลือ แนะควรเข้าซื้อเพื่อทำกำไรในระยะยาว “นิเวศน์” ชี้สถานการณ์หุ้นผันผวนในขณะนี้ไม่ควรตกใจเทขาย แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในงานเสวนา “วิกฤตหรือโอกาส หุ้นตก น้ำมันร่วง ช่วงปีใหม่ 2558” โดยระบุว่า ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี นักลงทุนอย่าตื่นตระหนกต่อข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้น แม้หุ้นจะตกเกือบร้อยละ 10 แต่อัตราเงินปันผลของตลาดหุ้นไทยยังสูงกว่าประเทศอื่น
ขณะเดียวกัน ก็ควรถือเป็นโอกาสดีที่จะลงทุน เพราะหุ้นมีราคาต่ำนักลงทุนควรจะเข้าซื้อเพื่อทำกำไรในระยะยาว ส่วนราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า เนื่องจากไทยนำเข้าน้ำมันเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ด้าน นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด มองว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3.5-4.5 เนื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้จ่ายของภาครัฐ รวมถึงการเร่งผลักดันงบค้างท่อเพื่อกระจายเม็ดเงินลงสู่ภูมิภาคต่างๆ จะเป็นตัวกระตุ้นการบริโภคของภาคประชาชน และการลงทุนภาคเอกชน
ขณะที่ นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า กล่าวว่า ผู้ลงทุนต้องไม่ตื่นตระหนกต่อสถานการณ์ความผันผวนของตลาดหุ้นในขณะนี้ และไม่ควรที่จะตัดสินใจขายออกมาทันที ต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ตั้งสติมองทุกอย่างให้ถูกต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และมองการลงทุนในระยะยาวเพื่อผลตอบแทนในอนาคต ส่วนกรณีที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลงนั้นได้ส่งผลกระทบต่อหุ้นบางกลุ่มเท่านั้น
ทั้งนี้ มองว่าการลงทุนในปีหน้ามีความท้าทายสูง จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงที่มากกว่า 10% รวมถึงอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา แต่ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว อีกทั้งราคาน้ำมันที่ปรับลดลงนั้นเป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะเข้าซื้อเศรษฐกิจได้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม หุ้นเด่นในปีหน้ามองว่าเป็นหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค ถือว่าเป็นกลุ่มที่จะให้ผลตอบแทนได้มากกว่ากลุ่มอื่น ผู้ลงทุนควรที่จะเข้าซื้อไว้จะเป็นผลดี