เค.ซี.เมททอลชีท ปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอ 200 ล้านหุ้นเกลี้ยง กระแสตอบรับนักลงทุนท่วมท้น จ่อเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai 23 ธ.ค.57 นี้ “สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม” มั่นใจพื้นฐานแน่นปึ้ก ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง ขณะที่ผู้บริหาร “นิพนธ์ เจริญกิจ” เผยเตรียมนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจตามยุทธศาสตร์ “ดาวกระจาย” บุกตลาดภาคเหนือ-อีสาน พร้อมรุกตลาดอาคารสำเร็จรูปให้เช่า หวังผลักดันรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนในอนาคต
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) หรือ KCM ผู้ผลิตและจำหน่ายหลังคาเหล็กเมททอลชีท ภายใต้แบรนด์ “รถถัง” เจ้าตลาดในวงการหลังคาเหล็ก และวัสดุก่อสร้างงานหลังคาและผนังเหล็กในภาคอีสาน และภาคเหนือ เปิดเผยถึงผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท ในราคาหุ้นละ 1.30 บาท ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม หลังเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 57 ที่ผ่านมา คาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 23 ธันวาคม 57 นี้ ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์คือ KCM
“ต้องขอขอบคุณกับกระแสตอบรับของนักลงทุนที่มีต่อหุ้น KCM อย่างล้นหลาม ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยหลังการระดมทุนในครั้งนี้ KCM มีแผนในการขยายตลาดในภาคเหนือ และอีสาน ขณะเดียวกัน ยังเตรียมเข้ารุกในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายสมภพ กล่าว
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนมั่นใจว่า หุ้น KCM ซึ่งกำลังจะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 23 ธันวาคมนี้ จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง และน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รายได้และกำไรขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) (KMC) กล่าวว่า เตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินลงทุนเพื่อขยาย 3 สาขา คือ ภูเก็ต แพร่ และลำปาง โดยลงทุนก่อสร้างตกแต่ง และเครื่องจักรบนที่ดินที่บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว และในช่วง 3 ปีข้างหน้า (58-60) เตรียมใช้เป็นเงินลงทุนเพื่อขยายสำนักงานขายขนาดเล็ก 92 แห่ง ในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก และอีกส่วนจะใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่สาขา 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น 2 แห่ง จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดละ 1 แห่ง อีกทั้งใช้เป็นเงินลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตแปเหล็กกล้ากำลังสูง จำนวน 4 เครื่อง และส่วนที่
เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
“การขยายสำนักงานขายขนาดเล็ก 92 แห่งในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแผนยุทธศาสตร์ดาวกระจาย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ผลักดันให้รายได้ของ KCM ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายนิพนธ์ กล่าว
ปัจจุบัน KCM มีสาขาอยู่ 22 แห่ง กระจายในภาคอีสาน และภาคเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระบุรี พิษณุโลก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ฯลฯ ซึ่งในจังหวัดขอนแก่นก็มีถึง 4 สาขาแล้ว ล่าสุด ได้ซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อจะทำการเปิดโรงงานแห่งใหม่ มีที่ภูเก็ต ลำปาง แพร่ และเชียงใหม่ โดยที่เชียงใหม่ อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง และดำเนินการ คาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้
อนึ่ง KCM มีทุนจดทะเบียน 170 ล้านบาท มีทุนชำระแล้วเต็มมูลค่าเท่ากับ 120 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ จำนวน 480 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท สำหรับทุนจดทะเบียนส่วนที่เหลือ จำนวน 50 ล้านบาท บริษัทออกไว้เพื่อรองรับการเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) หรือ KCM ผู้ผลิตและจำหน่ายหลังคาเหล็กเมททอลชีท ภายใต้แบรนด์ “รถถัง” เจ้าตลาดในวงการหลังคาเหล็ก และวัสดุก่อสร้างงานหลังคาและผนังเหล็กในภาคอีสาน และภาคเหนือ เปิดเผยถึงผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท ในราคาหุ้นละ 1.30 บาท ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม หลังเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 57 ที่ผ่านมา คาดจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 23 ธันวาคม 57 นี้ ใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์คือ KCM
“ต้องขอขอบคุณกับกระแสตอบรับของนักลงทุนที่มีต่อหุ้น KCM อย่างล้นหลาม ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยหลังการระดมทุนในครั้งนี้ KCM มีแผนในการขยายตลาดในภาคเหนือ และอีสาน ขณะเดียวกัน ยังเตรียมเข้ารุกในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายสมภพ กล่าว
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนมั่นใจว่า หุ้น KCM ซึ่งกำลังจะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 23 ธันวาคมนี้ จะไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง และน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เพราะบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รายได้และกำไรขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) (KMC) กล่าวว่า เตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินลงทุนเพื่อขยาย 3 สาขา คือ ภูเก็ต แพร่ และลำปาง โดยลงทุนก่อสร้างตกแต่ง และเครื่องจักรบนที่ดินที่บริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้ว และในช่วง 3 ปีข้างหน้า (58-60) เตรียมใช้เป็นเงินลงทุนเพื่อขยายสำนักงานขายขนาดเล็ก 92 แห่ง ในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก และอีกส่วนจะใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า จำนวน 4 แห่ง ในพื้นที่สาขา 3 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดขอนแก่น 2 แห่ง จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดละ 1 แห่ง อีกทั้งใช้เป็นเงินลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตแปเหล็กกล้ากำลังสูง จำนวน 4 เครื่อง และส่วนที่
เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
“การขยายสำนักงานขายขนาดเล็ก 92 แห่งในพื้นที่ภาคกลางตอนบน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตามแผนยุทธศาสตร์ดาวกระจาย ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ผลักดันให้รายได้ของ KCM ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ” นายนิพนธ์ กล่าว
ปัจจุบัน KCM มีสาขาอยู่ 22 แห่ง กระจายในภาคอีสาน และภาคเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระบุรี พิษณุโลก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ฯลฯ ซึ่งในจังหวัดขอนแก่นก็มีถึง 4 สาขาแล้ว ล่าสุด ได้ซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อจะทำการเปิดโรงงานแห่งใหม่ มีที่ภูเก็ต ลำปาง แพร่ และเชียงใหม่ โดยที่เชียงใหม่ อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง และดำเนินการ คาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้
อนึ่ง KCM มีทุนจดทะเบียน 170 ล้านบาท มีทุนชำระแล้วเต็มมูลค่าเท่ากับ 120 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ จำนวน 480 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท สำหรับทุนจดทะเบียนส่วนที่เหลือ จำนวน 50 ล้านบาท บริษัทออกไว้เพื่อรองรับการเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท