ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “เค.ซี.เมททอลชีท” เตรียมเสนอขายไอพีโอ 200 ล้านหุ้น คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้ภายในสิ้นปีนี้ ระดมทุนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ “นิพนธ์ เจริญกิจ” เอ็มดีหนุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรง มั่นใจอนาคตธุรกิจไปได้สวย หลังผุดสาขาเพิ่ม-บุกตลาดอาคารสำเร็จรูปให้เช่า แถมยังได้ที่ปรึกษามือดี “แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์” เป็นพี่เลี้ยง งานนี้ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวังแน่
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) หรือ KCM ผู้ผลิตและจำหน่ายหลังคาเหล็กเมททอลชีท ภายใต้แบรนด์ “รถถัง” เจ้าตลาดในวงการหลังคาเหล็กและวัสดุก่อสร้างงานหลังคาและผนังเหล็กในภาคอีสาน เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบไฟลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 โดยมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ คาดว่าจะเปิดจองซื้อหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยมีวัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้ใช้เป็นทุนหมุนเวียน ขยายสาขา และลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า
“มั่นใจว่าหุ้น KCM จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง เมื่อผนวกกับแผนธุรกิจในอนาคตแล้ว ยิ่งทำให้ KCM มีความน่าสนใจเข้าลงทุนเป็นอย่างมาก” นายสมภพ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของบริษัท (2554-2556) มีรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจาก 718.15 ล้านบาท เป็น 806.78 ล้านบาท และ 821.86 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิต่อเนื่องทุกปีมาโดยตลอด (2554-2556) บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 58.18 ล้านบาท 46.91 ล้านบาท และ 42.07 ล้านบาทตามลำดับ และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 มีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 401.53 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10.77 ล้านบาท
นายนิพนธ์ เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) (KMC) กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ มีแผนจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ขยายสาขา และลงทุนในธุรกิจอาคารสำเร็จรูปให้เช่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจรและสามารถให้บริการได้อย่างครอบคลุมโดยเฉพาะลูกค้าในภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายได้ให้กับบริษัทในอนาคต และเป็นการกระจายแหล่งที่มาของรายได้ เพื่อลดความเสี่ยงของธุรกิจอีกด้วย
“เรามีสาขาอยู่ 22 แห่ง กระจายในภาคอีสานและภาคเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น ชัยภูมิ อุดรธานี สกลนคร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ นครราชสีมา สระบุรี พิษณุโลก กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ฯลฯ ซึ่งในจังหวัดขอนแก่นก็มีถึง 4 สาขาแล้ว ล่าสุด ได้ซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อจะทำการเปิดโรงงานแห่งใหม่ มีที่ภูเก็ต ลำปาง แพร่ และเชียงใหม่ โดยที่เชียงใหม่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างและดำเนินการคาดว่าน่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้” นายนิพนธ์ กล่าวในที่สุด
ปัจจุบัน KCM มีทุนจดทะเบียน 170.00 ล้านบาท มีทุนชำระแล้วเต็มมูลค่าเท่ากับ 120.00 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 480.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท สำหรับทุนจดทะเบียนส่วนที่เหลือจำนวน 50.00 ล้านบาท บริษัทออกไว้เพื่อรองรับการเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 200.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท