“ดี-แลนด์ฯ” มั่นใจปี 58 ตลาดขยายตัวดีหลัง รับปัจจัยบวก ดอกเบี้ยต่ำ รัฐโหมลงทุนสาธารณูปโภคกระตุ้นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ จับตาปัจจัยลบภาระหนี้ครัวเรือน แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ต้นทุนก่อสร้างขยับเพิ่ม แรงงานขาดแคลน อาจฉุดตลาดรวม ด้าน “ดี-แลนด์” ล็อกเป้าโซนพระราม 2 ฐานลงทุน วางเป้าปี 58 รายได้ 1,200 ล้านบาท แจงปี 57 รายได้ตามเป้า 800 ล้านบาท โต 35% จากปีก่อนหน้า
นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์โซนพระราม 2-จังหวัดสมุทรสาคร ในปี 57 นี้ ถือว่ามีอัตราการเติบโตที่สวนกระแส โดยภาพรวมตลาดดังกล่าวมีมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท จากจำนวนซัปพลายทั้งหมด 6,000 ยูนิต เมื่อเทียบ 3 ไตรมาสสุดท้ายระหว่างปี 56 กับ ปี 57 พบว่า มีอัตราการโอนที่ขยายตัวในทุกกลุ่ม ยกเว้นอาคารพาณิชย์ ที่โตติดลบประมาณ 30%
ทั้งนี้ อาจเกิดจากสินค้าที่ออกสู่ตลาดลดลง สำหรับส่วนที่เติบโตมากที่สุดคือ กลุ่มบ้านแฝด มีอัตราเติบโตสูงถึง 160% ประมาณ 233 ยูนิต รองลงมาคือ คอนโดมิเนียม เติบโต 47% ประมาณ 130 ยูนิต ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่เสริมให้โซนดังกล่าวมีการเติบโตแบบสวนกระแส เพราะเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญอันดับตันๆ ของประเทศ อีกทั้งโครงข่ายคมนาคมที่สะดวกสบาย เนื่องจากเป็นเส้นทางสายหลักที่เชื่อมสู่ภาคใต้ ทำให้ความต้องการอสังหาฯ ในโซนดังกล่าวมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับปี 57 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารับรู้รายได้ไว้ที่ 800 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 600 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 35% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเปิดขายโครงการ D -Complex ศรีราชา ซึ่งมียอดขายที่ดีมาก ล่าสุด สามารถปิดขายได้แล้ว 50% หรือ 60 ยูนิต จาก 115 ยูนิต ในระยะเวลา 4 เดือน ขณะที่โครงการในโซนพระราม 2 ที่มีการกระตุ้นการขายด้วยโปรโมชัน และเจาะตลาดตรงสู่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้การเติบโตเป็นไปตามเป็นเป้าหมาย ซึ่งถือว่าสวนทางต่อกระแสภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ของปีนี้
“ผลประกอบการของดี-แลนด์ฯ ในปี 57 ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน ซึ่งเกิดจากการที่บริษัทสามารถรักษายอดการขายในโครงการที่เปิดไปก่อนหน้า เช่น โครงการบ้านดี เศรษฐกิจ, โครงการบ้านดี บางโทรัด, โครงการบ้านดี เอกชัยพลัส และโครงการพอร์โต้ วิลล่า ได้อย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับการเริ่มขยายตัวออกไปพัฒนาโครงการในหัวเมืองเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่ม เช่น โครงการที่เปิดใหม่ D-Complex ศรีราชา”
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ในปี 58 คาดว่าจะมีทั้งปัจจัยลบ และปัจจัยบวกรออยู่มาก โดยปัจจัยลบคือ ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ราคาต้นทุนการก่อสร้างที่มีแนวโน้มขยับราคาเพิ่มขึ้น รวมไปถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ขณะที่ปัจจัยบวกคือ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ และการโหมลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคของภาครัฐที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม รวมทั้งการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในช่วงปลายปี 58
“ในปี 2558 มีแนวโน้มการเติบโตที่สูงขึ้นตามคาดการณ์ GDP ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น 4% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลาย และมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ก็จะทำให้เศรษฐกิจภาพรวมดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับการเข้าสู่ AEC ในช่วงปลายปี 2558 จะเป็นปัจจัยบวกให้แก่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น การตื่นตัวให้ทันต่อ AEC จะมีมากยิ่งๆ ขึ้นตามไปด้วย”
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมรับปัจจัยต่างๆ ดี-แลนด์ กรุ๊ป จึงได้ตั้งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจ โดยมีแผนที่จะรุกไปยังโซนภาคตะวันออกต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยเน้นไปที่กลุ่มผู้บริโภคตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-ล่าง มีศักยภาพในการซื้อที่ลดลงจากปัญหาหนี้ครัวเรือน ภาระหนี้รถคันแรก ซึ่งกำลังซื้อกลุ่มนี้จะกลับมาฟื้นตัวอาจต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี หลังจากภาระหนี้ภาคครัวเรือนเริ่มผ่อนคลายลง
สำหรับปี 58 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ 1,200 ล้านบาท โดยจะมาจากโครงการเดิมที่ยังมีมูลค่าขายได้อีกกว่า 900 ล้านบาท และโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวเพิ่มขึ้นอีก 2 โครงการ ในโซนพระราม 2-สมุทรสาคร ได้แก่ โครงการ ดี คอมเพล็กซ์ พระราม 2 ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ที่มี Concept ที่แตกต่าง และโครงการ เดอะพราว พระราม 2 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว รวมทั้ง 2 โครงการจำนวน 117 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท โดยในอนาคตการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเขตจังหวัดชลบุรี จะมีสัดส่วนมากกว่าโครงการในสมุทรสาคร
“ที่เลือกไปโซนภาคตะวันออกโดยเฉพาะชลบุรี เพราะมองว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง มีเศรษฐกิจที่ดีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว เมืองค้าขาย มีนิคมอุตสาหกรรมมากที่สุดในประเทศ อีกทั้งในอนาคตอันใกล้จะมีระบบสาธารณูปโภครองรับการขยายตัว ทั้งทางน้ำ ถนน และระบบราง ซึ่งเป็นอันดับแรกๆ ที่รัฐบาลมุ่งเน้นพัฒนา โดยในปีหน้าคาดว่าจะมีการลงทุนในเขตจังหวัดชลบุรี 2-3 โครงการ เพื่อรองรับรายได้ใน 2559 พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนของประเภทธุรกิจที่มีรายได้ประจำต่อเนื่องมากขึ้น” นายศิริพงษ์ กล่าว
