“ไพลอน” วางเป้าหมาย รายได้ทั้งปี 57 เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือรายได้แตะที่ระดับ 1,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 1,200 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้ม Q4 ปี 57 ทำผลงานโตสวย จากการรับงานใหม่อย่างต่อเนื่อง หนุนปัจจุบัน Backlog เพิ่มขึ้นแตะระดับ 900 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายราว 45% มั่นใจผลงานทั้งปี 57 ที่วางไว้ไม่พลาดเป้าแน่นอน ส่วนปี 58 เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องเสาเข็มเจาะอีก 2 ชุด จากปัจจุบันมี 18 ชุด หลังประเมินเข้าสู่ช่วงขาขึ้นของอุตสาหกรรม จากนโยบายภาครัฐ และงานรถไฟฟ้าหนุน คาดส่งผลดีต่องานฐานรากเสาเข็มเจาะเพิ่มขึ้น
นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยถึงเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2557 คาดว่าจะเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ทั้งปีขึ้นสู่ที่ระดับ 1,400 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ 1,200 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างเสาเข็มเจาะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และสามารถบริหารงานในมือที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2557 จะเป็นหนึ่งในไตรมาสที่ดีที่สุดของบริษัทฯ ในปีนี้ เนื่องจากบริษัทฯ เตรียมรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่แล้วที่ 900 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ราว 45% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงไตรมาส 3 ของปี 2558
“เป้าหมายรายได้ในปีนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้อยู่ที่ 1,200 ล้านบาท เชื่อว่าไม่น่ามีอะไรผิดพลาด เนื่องจากผลงาน 9 เดือนแรกที่ออกมาบริษัทฯ สามารถทำรายได้แล้วที่ราว 997 ล้านบาท บวกกับปัจจุบันมีงานในมืออยู่ที่ราว 900 ล้านบาท และรอรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายนี้ประมาณ 45% สนับสนุนผลประกอบการทั้งปี 2557 เติบโตโดดเด่น และน่าจะเห็น New High ของบริษัทฯ ทั้งรายได้ และกำไร เป็นผลงานที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ของ PYLON เท่าที่เคยทำมา” นายบดินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอุตสาหกรรมงานก่อสร้างและงานเสาเข็มเจาะในปี 2558 คาดว่าจะเติบโต สดใสจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้โครงการต่างๆ สามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการลงทุนภาครัฐบาลด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมทั้งการยื่นซองประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 2/2558 กระตุ้นตลาดงานก่อสร้างเสาเข็มเจาะของโครงสร้างรถไฟฟ้า และอาคารสูงโดยรอบได้เป็นอย่างดี เป็นปัจจัยสำคัญให้บริษัทฯ มีโอกาสรับงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทิศทางเดียวกัน
ดังนั้น เพื่อเตรียมพร้อมรับโอกาสที่จะเกิดขึ้น บริษัทฯ จึงอยู่ระหว่างขยายกำลังการผลิตเครื่องเจาะเสาเข็มเพิ่มเติมอีก 2 ชุด ในอีก 1-2 เดือนจากนี้ จากปัจจุบันมีเครื่องเสาเข็มเจาะสำหรับดำเนินการอยู่แล้วที่ 18 ชุด และใช้ใกล้เต็มกำลังการผลิตแล้ว จากนั้นอีก 4-5 เดือนถัดไปก็คาดว่าจะประเมินซื้อชุดเสาเข็มเจาะเพิ่ม พื่อรองรับงานที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
“นอกเหนือจากงานรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ได้มีการยื่นซองประมูลไปแล้วนั้น ในปี 2558 ยังมีการประมูลรถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 3 สายเกิดขึ้นอีก ซึ่งจะส่งผลให้งานคอนโดฯ งานอาคารสูงตามแนวรถไฟฟ้าเกิดเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งงานจากการลงทุนของภาครัฐบาล และภาคเอกชนอื่นๆ ที่จะเข้ามา จึงเชื่อมั่นว่าแนวโน้มในอีก 3 5 ปีข้างหน้าจากนี้จะเป็นช่วงขาขึ้นของอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานราก ตลาดจะคึกคักแ ละเติบโตสดใสมาก” นายบดินทร์ กล่าว
