“ปัญจวัฒนาพลาสติก” เผยปี 58 ธุรกิจกลับมาเทิร์นอะราวนด์ ได้รับแรงหนุนจากค่ายรถยนต์เปิดตัวโมเดลใหม่ หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศ ขณะที่ธุรกิจโรงพ่นสี รายได้โตก้าวกระโดดแตะ 100-150 ล้านบาท “วิวรรธน์ เหมมณฑารพ” ฝากบอกนักลงทุน ผู้ถือหุ้นสบายใจหายห่วง ธุรกิจรอบนี้กลับมาฟื้นตัวแน่ ชูจุดแข็งความสัมพันธ์ลูกค้าแน่นปึ้ก การบริหารความเสี่ยงภายในพร้อมรับมือทุกสถานการณ์
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2558 คาดว่าจะกลับมาเทิร์นอะราวนด์เนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านมา ได้มีการทุ่มเงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท สร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง จังหวัดชลบุรี และขยายส่วนโรงงานคลีนรูม จังหวัดสมุทรสาคร โดยล่าสุด ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้เปิดไลน์การผลิตแล้ว และมีออเดอร์ลูกค้าจาก บริษัท ฮอนด้า แอคเซสเอเซีย แอนด์ เอเซียเนีย จำกัด เข้ามาแล้ว ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้จากโรงงานพ่นสีประมาณ 20 ล้านบาท
“ในปีหน้าคาดว่ารายได้จากโรงพ่นสีจะโตแบบก้าวกระโดดเป็น 100-150 ล้านบาท อีกทั้งหากมีการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ (Full Capacity) จะสร้างรายได้ 600-800 ล้านบาท ซึ่งทีมงานบริหารตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปี” นายวิวรรธน์ กล่าว อนาคตธุรกิจโรงพ่นสีจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมาย และทำให้สัดส่วนรายได้ในส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ขยับเพิ่มขึ้นเป็น 20-25% ของรายได้รวม จากเดิมอยู่ที่ระดับ 15-17% ของรายได้รวม และคาดว่าธุรกิจโรงพ่นสีจะถึงจุดคุ้มทุนที่เพียงพอค่าใช้จ่ายโรงงานพ่นสีที่เพิ่มขึ้นภายใน 2 ปี และมีการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ภายใน 5-7 ปี
สำหรับสาเหตุที่ทำให้แนวโน้มผลประกอบการในปี 2557 ชะลอตัว ส่วนหนึ่งมาจากมีภาระค่าใช้จ่ายค่าเสื่อมราคา และเงินเดือนบุคลากรเพื่อเตรียมและทดสอบงานนิวโมเดลของโครงการลงทุนใหม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขึ้นระบบโรงงานพ่นสี และต้นทุนราคาเม็ดพลาสติกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ราคาขายทยอยปรับย้อนหลัง รวมถึงภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงจากโครงการลงทุน ทำให้ผลกำไรชะลอตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน
อย่างไรก็ตาม รายได้ของ PJW ในปีนี้น่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว จากปัญหาการเมืองในประเทศ และเริ่มทยอยฟื้นตัว หลังจากค่ายรถยนต์ออกโมเดลรถยนต์ใหม่ๆ ออกมา รวมถึงยอดขายบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวจะเพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตของลูกค้าหลังจากการติดตั้งเครื่องจักรเสร็จส่วนหนึ่งในไตรมาส 2 ปีนี้ และมีส่วนต่อขยายในช่วงกลางปีของปีหน้า ทำให้ยอดขายบรรจุภัณฑ์นมและนมเปรี้ยวมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลังของปี 58
นายวิวรรธน์ กล่าวอีกว่า บริษัทมีจุดเด่นด้านคุณภาพการให้บริการ และการส่งมอบในด้านของบรรจุภัณฑ์และชิ้นส่วนยานยนต์ ด้วยประสิทธิภาพ และความสามารถในการบริหารต้นทุน มีหุ้นส่วนทางธุรกิจที่แข็งแกร่งระหว่างเรากับลูกค้า (Partnership) โดยมีการบริหารจัดการด้านความเสี่ยง และโครงสร้างภายในที่สอดรับต่อสภาวการณ์จากผลกระทบด้านเศรษฐกิจ และการเมือง ซึ่งมีการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง