“อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค” รุกขยายฐานลูกค้าในประเทศ ออกผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ ขยายตลาดครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ล่าสุด จับมือ ไทวัสดุ คลอดเฟอร์นิเจอร์แบรนด์น้องใหม่ “CUBE” ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์หลากหลาย ดีไซน์ทันสมัย ใช้งานได้ทุกรูปแบบ พร้อมเดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์ดันยอดขายทั่วประเทศ ขณะที่ตลาดต่างประเทศออเดอร์เพียบ คาดรายได้ทั้งปีแตะ 1,300 ล้านบาท และปี 58 โตอีก 15%
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะใช้กลยุทธ์พัฒนาผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ให้ครอบคลุมในทุกเซกเมนต์ มีความหลากหลายทั้งในด้านดีไซน์ ราคา เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งในแง่ของความจำเป็นในการใช้งาน และเทรนด์การตกแต่งบ้านที่อยู่อาศัย และยังเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มด้วย
ทั้งนี้ บริษัทได้ทำการเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดแบรนด์ใหม่ “CUBE” เพื่อวางจำหน่ายใน ไทวัสดุ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้เลือกสรร ทั้งด้านดีไซน์ และการใช้งาน อีกทั้งยังมีราคาอยู่ในระดับที่เหมาะสม จับต้องได้ในลูกค้าตลาดกลาง และล่าง
นอกจากนี้ ยังมีการขยายช่องทางจำหน่ายให้สามารถเข้าถึงได้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยในปัจจุบันมีแบรนด์ ELEGA ใน Index Living mall และ Homepro จำนวน 13 สาขา ซึ่งบริษัทมีแผนขยายโชว์รูมเพิ่มในปีหน้า ส่วนแบรนด์อื่นๆ มีการเติบโตตามสาขาที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในกลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด เช่น เทสโก้ โลตัส บิ๊กซี เมกาโฮม ไทวัสดุ และบริษัทยังได้ขยายช่องทางจำหน่ายออนไลน์ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยได้เริ่มดำเนินการเพิ่มช่องทางดังกล่าวเมื่อเดือน ต.ค.57 ที่ผ่านมา มีกระแสตอบรับที่ดี มีออเดอร์เข้ามาทางช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น และมองว่าในอนาคตน่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะสามารถผลักดันให้สัดส่วนรายได้ในประเทศเพิ่มมากขึ้น
สำหรับตลาดต่างประเทศ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าเดิมในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ตะวันออกกลาง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มีแนวโน้มเพิ่มปริมาณคำสั่งซื้อ ตามการขยายตัวของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และความต้องการของตลาดในประเทศต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อรายได้การส่งออก อีกทั้งบริษัทมีการเข้าไปเจรจากับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และมีออเดอร์ใหม่เข้ามาแล้วบางส่วน โดยภายในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 58 บริษัทมีออเดอร์จากต่างประเทศที่รอรับรู้รายได้อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมปีนี้คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 1,300 ล้านบาท หรือเติบโตตามเป้าที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 15%
ส่วนทิศทางธุรกิจในปี 2558 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตอย่างน้อย 15% โดยคาดว่าตลาดในประเทศมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ คาดว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะส่งผลดีอย่างเห็นได้ชัดในช่วงปลายไตรมาสแรกของปี 58 ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์โดยตรง เนื่องจากความต้องการในตลาดจะเพิ่มสูงขึ้น กำลังซื้อจะเริ่มทยอยกลับมา
ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยผลักดันให้ยอดขายของบริษัทเติบโตเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งบริษัทได้มีกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย โดยออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ เพิ่มช่องทางจำหน่ายในประเทศให้มากขึ้น และเจรจากับลูกค้าใหม่ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง