xs
xsm
sm
md
lg

โบนันซ่าสบซ่องช่วงไฮซีซันเขาใหญ่ ลุยเปิดขาย “โมเมนโตเฟส 2” รับกำลังซื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โมเนโต้เขาใหญ่
อสังหาฯ เขาใหญ่เริ่มกระเตื้องหลังเข้าสู่ช่วงไฮซีชัน กลุ่มโบนันซ่า เปิดโมเมนโต้เฟส 2 รับกำลังซื้อ ด้านเน็กซัสฯ เผย 10 เดือนคอนโดฯ เปิดใหม่แค่ 260 ยูนิต ส่งผลซัปพลายเหลือขายแค่ 1,000 ยูนิต ส่วนราคาที่ดินทรงตัวหลังตลาดซึมยาว

นายสงกรานต์ เตชะณรงค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชูเตอร์เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้ดำเนินโครงการ “โมเมนโต้ บาย เดอะโบนันซ่า เขาใหญ่” กล่าวว่า ช่วงฤดูหนาวการท่องเที่ยวเขาใหญถือเป็นช่วงไฮซีซัน บริษัทใช้โอกาสนี้เปิดตัวโครงการ “โมเมนโต้ เฟส 2” ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 50 ไร่ ติดกับโมเมนโต้เฟส 1 โดยพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว 1-2 ชั้น พร้อมดาดฟ้าขนาด 80-150 ตร.ว. ราคาเริ่มต้น 11-21 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 850 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็น 6 โซน จำนวน 50 ยูนิต โดยจะเปิดขายในโซนแรกก่อน 10 ยูนิต มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ

จากความสำเร็จของโมเม้นโต้ เฟสแรก ที่เกือบปิดการขายแล้วหลัจากเปิดขายเพียงปีเศษ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโบนันซ่า ที่ถูกพัฒนามาอย่างยาวนาน โดยมีทั้งบริการจากโรงแรมที่ให้บริการลูกบ้านภายในโครงการ มีสวนสัตว์ EXOTIC ZOO ที่รวบรวมสัตว์แปลกหายากไว้หลายชนิด เช่น อาปาก้า เสือขาว สิงโตเผือก ฯลฯ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีสนามกอล์ฟ และการท่องเที่ยวแบบผจญภัย ทำให้บริษัทเดินหน้าเปิดเฟส 2 ต่อเนื่อง คาดว่าในส่วนของเฟส 1 จะปิดการขาย และแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ในปลายปีนี้

“เดอะโบนันซ่า มีข้อได้เปรียบคู่แข่งที่เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาอสังหาฯ มายาวนานบนทำเลเขาใหญ่ ตอบโจทย์ให้แก่ครอบครัว รวมถึงการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ทุกปี เป็นจุดดึงดูดทั้งลูกค้าที่ต้องการบ้านพักตากอากาศ และนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า” นางทักษอร เตชะณรงค์ กรรมการผู้จัดการโครงการโมเม้นโต้ บายเดอะ โบนันซ่า กล่าว

ส่วนความคืบหน้าโครงการ พาโค่ บาย เดอะ โบนันซ่า ซึ่งเป็นคันทรีลอฟท์คอนโดมิเนียม สูง 4 ชั้น 4 อาคาร บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ขนาด 25-100 ตร.ว. ราคา 2.95 ล้านบาทขึ้นไป หรือประมาณ 9 หมื่นบาทต่อ ตร.ม. รวม 306 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 70% ลูกค้าส่วนใหญ่มาจาก กทม.สัดส่วน 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% เป็นลูกค้าที่อยู่ในจังหวัดทางภาคอีสาน โดย 50% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดจัดทำไทม์แชริ่งที่บริษัทบริหารจัดการเพื่อปล่อยเช่าจากทางโรงแรมของกลุ่มบริษัท โดยการันตีผลตอบแทน 5% ต่อปีนาน 5 ปี คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2558 อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้รวมจากการโอนเข้ามาประมาณ 300 ล้านบาท
สงกรานตน์  ทักษอร  เตชะณรงค์
คอนโดฯ เขาใหญ่เหลือขายแค่ 1,000 ยูนิต

นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาด และการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลเขาใหญ่ เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น แม้จะไม่คึกคักเช่นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ถือว่าดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา ที่ตลาดได้รับผลกระทบทางการเมือง และตลาดหุ้นผันผวน ส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เขาใหญ่ซบเซาลงอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงจากกรุงเทพฯ เกือบ 80% ส่วนที่เหลืออีก 20% มาจากจังหวัดอื่นๆ ไม่เหมือนกับตลาดเมืองท่องเที่ยวอื่นที่มีกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติด้วย

ทั้งนี้ จากการสำรวจตลาดพบว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจุจันพบว่า มีผู้ประกอบการเปิดตัวโครงการใหม่น้อยมากในรอบ 4-5 ปี โดยเปิดเพียง 3 โครงกราร ประมาณ 260 ยูนิตเท่านั้น จากที่ปี 2556 เปิดมากถึง 1,000 ยูนิต เมื่อรวมซัปพลายที่เปิดมาในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีซัปพลายคอนโดฯ ในตลาดเขาใหญ่สะสมที่ 3,450 ยูนิต ในจำนวนนี้ขายไปได้แล้ว 70% ยังเหลือขายอยู่อีก 30% หรือประมาณ 1,000 ห้อง

ส่วนตลาดบ้านเดี่ยวยังคงขายได้เรื่อยๆ เดือนละ 1-2 หลัง สำหรับโครงการที่ไม่ใหญ่ 20-30 ยูนิต โดยราคาเฉลี่ยของบ้านเดี่ยวในเขาใหญ่อยู่ที่ประมาณ 8-20 ล้านบาท มีมากถึง 70% ของตลาด

ขณะที่ราคาที่ดินพบว่าทรงตัว โดยราคาที่ดินติดริมถนนธนะรัชต์ เฉลี่ยยังอยู่ที่ปประมาณ 10 ล้านบาท/ไร่ ไม่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดอสังหาฯ ซบเซามาเป็นเวลานาน จากที่ในช่วง 2 ปีก่อน ราคาที่ดินในเส้นถนนธนะรัชต์ มีการปรับตัวค่อนข้างแรง 50-100%

“ตลาดอสังหฯ เขาใหญ่เป็นตลาดที่ต่างจากเมืองท่องเที่ยวอื่น เพราะมีกลุ่มลูกค้าเกือบทั้งหมดเป็นชาวไทย ทำให้ยอดขายไม่ได้หวือหวาเช่นเมืองท่องเที่ยวอื่นๆ และจะขายได้ดีในช่วงไฮซีซัน คือ ตุลาคม ถึงมีนาคมเท่านั้น ส่วนเวลาอื่นๆ จะขายได้น้อย ซึ่งผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ามาในตลาดเขาใหญ่ต้องมีสายป่านที่ยาว เพราะตลาดไม่ได้ขายเร็ว ส่วนปีหน้าคาดว่าแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมา และกำลังซื้ออั้นซื้อมานาน” นางนลินรัตน์ กล่าว

 

กำลังโหลดความคิดเห็น