เผยแนวโน้มคอนโดแนวรถไฟ้ฟา บีทีเอส 5 สถานีหลัก “ทองหล่อง อโศก พร้อมพงษ์ เพลินจิต ชิดลม” ขยับขึ้นต่อเนื่อง ชี้ ดีมานด์ห้องชุดโตต่อเนื่อง สวนทางซัปพลาย เชื่อเปิด AEC หนุนดีมานด์พุ่งส่งผลราคาขายห้องชุดย่านสุขุมวิททะยานต่อ ด้าน “พราวฯ” แจงปรับขึ้นราคาขาย พาร์ค 24 แล้ว 4 รอบ จากราคาเปิดตัว 172,000 บาทต่อ ตร.ม. เป็น 200,000 บาทต่อ ตร.ม. เล็งปรับขึ้นราคาอีกรอบ Q1 ปี 58 ล่าสุดขน 30 ห้องชุดมาจัดแคมเปญมอบส่วนลดลูกค้าทิ้งท้ายปี แจงมียอดขายแล้ว 88% หรือกว่า 4,600 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด กล่าวว่า ภายหลังจากเปิดตัวโครงการ พาร์ค 24 ในซอยสุขุมวิท 24 ในเดือน พ.ย.2556 ที่ผ่านมา ได้ปรับขึ้นราคาขายไปแล้ว 4 ครั้ง โดยราคาเปิดขายในช่วงเปิดตัวครั้งแรกอยู่ที่ 172,000 บาทต่อ ตร.ม. ล่าสุด ราคาปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 220,000 บาทต่อ ตร.ม. และในช่วงต้นปี 2558 จะมีการปรับขึ้นราคาขายอีกครั้ง ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาขายห้องชุดในโครงการดังกล่าวได้อย่าต่อเนื่อง เพราะดีมานด์ห้องชุดในพื้นที่มีการขยายตัวสวนทางกับซัปพลาย เนื่องจากที่ดินที่สามารถจะนำมาพัฒนาโครงการในโซนสุขุมวิทในปัจจุบันมีการลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในอนาคตจะไม่สามารถหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆ ได้อีกแล้ว
ขณะเดียวกัน การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะส่งผลให้ความต้องการห้องชุดในพื้นที่กลางเมืองปรับตัวสูงขึ้นอีก ทำให้ราคาขายห้องชุดในโซนสุขุมวิท โดยเฉพาะในทำเลที่ติดแนวรถไฟฟ้า บีทีเอส 5 สถานีหลัก คือ ทองหล่อ อโศก เพลินจิต พร้อมพงษ์ ชิดลม มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ห้องชุดในทำเลดังกล่าวจึงเป็นที่ต้องการของนักลงทุน โดยราคาขายเฉลี่ยโครงการทั้ง 5 สถานี เริ่มต้น 150,000-300,000 บาทต่อ ตร.ม.
ล่าสุด บริษัทเตรียมนำห้องชุดในโครงการพาร์ค 24 จำนวน 30 ยูนิต จากยูนิตเหลือขายในปัจจุบัน 96 ยูนิต ออกมาจัดแคมเปญพิเศษมอบส่วนลดแก่ลูกค้าที่สนใจ ก่อนการปรับราคาใหม่ในปีหน้า ได้แก่ ห้อง 1 ห้องนอน มูลค่าส่วนลด 250,000 บาท และห้อง 2 ห้องนอนมูลค่าส่วนลด 500,000 บาท
สำหรับโครงการ พาร์ค 24 ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 4,600 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 5,600 ล้านบาท หรือขายไปแล้วกว่า 88% โดยมียูนิตเหลือขาย 96 ยูนิต จากจำนวนยูนิตรวม 837 ยูนิต หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัท ได้นำโครงการดังกล่าวไปจัดโรดโชว์ที่ฮ่องกงและสิงค์โปร ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 50 ยูนิต โดยกลุ่มผู้ซื้อแบ่งเป็นนักลงทุน และนักธุรกิจที่ต้องการบ้านพักในกรุงเทพฯ โดยคาดว่าโครงการนี้จะสามารถปิดการขายในเฟสแรกในไตรมาสที่ 1 ปี 2558
“สำหรับสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ได้รับผลกระทบทางการเมืองในช่วงครึ่งปีแรกนั้น คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้และจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์โดยรวมในครึ่งหลังของปี 2557 ไม่น่าเป็นห่วงและมั่นใจว่าจะมั่นคงทั้งในระยะกลางและระยะยาว เนื่องมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการรวมตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในเร็วนี้ๆ” นายธงชัย กล่าว
ปัจจุบัน โครงการ “พาร์ค 24” ขายแล้วกว่า 88% ซึ่งถือเป็นการตอบรับที่ดีมาก ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการบนถนนสุขุมวิท 24 ใจกลางย่าน “เอ็ม ดิสทริค” เดินทางสะดวกทั้งจากซอย 24 และ 22 ใกล้รถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ รายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์และเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ครบวงจรที่สุดของเอเชีย ประกอบกับคอนเซปต์คอนโดพร้อมสวนขนาดใหญ่ ผสานชีวิตคนเมืองกับธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัวให้ผู้พักอาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด
“ทำเลที่ตั้งของโครงการจะทำให้ พาร์ค 24 เป็นอีกหนึ่งโครงการที่นักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก หากมองในด้านของทำเลที่ตั้งบริเวณ “เอ็ม ดิสทริค” อันเป็นจุดยุทธศาสตร์ย่านสุขุมวิท หัวใจหลักแห่งความรุ่งโรจน์ของมหานครกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นการรวมตัวของศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส ดิ เอ็มโพเรียม หรือที่กำลังจะเปิดตัวในต้นปีหน้าอย่าง ดิ เอ็มควอเทียร์ และดิ เอ็มสเฟียร์” ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลบวกกับโครงการพาร์ค 24 เป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ห่างจากเอ็ม ดิสทริค เพียง 500 เมตรเท่านั้น” นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด กล่าว
“สำหรับโครงการ “พาร์ค 24” เป็นคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ บนทำเลียบถนนสุขุมวิท 24 มี 2 อาคาร สูง 29 ชั้นและ 51 ชั้น รวม 837 ยูนิต บนเนื้อที่ทั้งหมด 12 ไร่ รวมมูลค่าโครงการกว่า 5,600 ล้านบาท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในปี 2561”
