xs
xsm
sm
md
lg

พราวพุธ ลิปตพัลลภ หลงเสน่ห์ธุรกิจอสังหาฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด
แม้จะมีพ่อบุกเบิกสร้างทางในแวดวงการเมืองไว้บ้างแล้ว หากแต่ พราวพุธ ลิปตพัลลภ ลูกสาวคนเล็กของนักการเมืองรุ่นเก๋า สุวัจน์ ลิปตพัลลภ กับ มาดามติ้ง-พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ ก็ไม่เคยจะสนใจ กลับเลือกจะเป็นลูกไม้หล่นไกลต้น กำหนดทางเดินชีวิตของตัวเอง ด้วยการเป็นนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเธอก็ไม่ทำให้คนรอบข้างต้องผิดหวัง เพราะเพียงปีกว่าที่เข้ามา ชื่อของเธอก็ติดลมบน กลายเป็นนักเรียลเอสเตทสาวคนใหม่ที่น่าจับตามองยิ่งนัก

 
พราว-พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด เริ่มต้นบอกเล่าเรื่องราวของเธอว่า เป็นเจนเนอเรชันที่ 3 แห่งตระกูล “ลิปตพัลลภ” เพราะมีพ่อเป็นนักการเมืองชื่อดัง ในวัยเด็กจึงคุ้นเคยกับการลงพื้นที่ไปช่วยพ่อแจกป้ายหาเสียงให้กับคนโคราชมาตลอด แม้จะผูกพันกับอาชีพนักการเมือง แต่น่าแปลกที่เธอกลับไม่รู้สึกชื่นชอบ และไม่เคยคิดจะลงเล่นการเมืองตามรอยพ่อแม้แต่น้อย

สาวสวยเจ้าของร่างสูง รูปร่างราวนางแบบวัย 27 ปีคนนี้ ยอมรับว่า อาชีพนักการเมืองแม้จะเป็นอาชีพที่มีส่วนในการช่วยประเทศชาติ ช่วยผู้คนที่ได้รับความเดือดร้อน แต่พราวพุธก็มั่นใจว่า การตั้งใจทำงานในส่วนอื่น ก็สามารถจะช่วยได้เช่นกัน

“นักการเมืองเป็นอาชีพที่เหนื่อยกว่าที่คิดไว้มาก คุณพ่อ-คุณแม่ไม่เคยบังคับให้ลูกๆ ต้องเป็นอย่างท่านด้วย พราวเชื่อว่าการช่วยเหลือคนไม่จำเป็นต้องเป็นนักการเมืองเสมอไป พราวทำตรงนี้พราวก็ช่วยชาติช่วยเพื่อนๆ ได้เหมือนกัน” พราวพุธ สะท้อนความคิดเรื่องการทำงานให้ฟัง

 
เพราะพ่อและแม่ให้อิสระในการเลือกอาชีพ ดังนั้น เมื่อจบมัธยมปลายจากโรงเรียนจิตรลดา พราวพุธ จึงขอบินลัดฟ้าไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด อังกฤษ จนจบปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะเศรษฐศาสตร์และการจัดการ และต่อปริญญาโทด้านการบริหาร จากลอนดอน บิสซิเนส สคูล ประเทศอังกฤษ จากนั้นจึงเริ่มทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ที่ บริษัท แมคคินซี แอนด์ คอมพานี ซึ่งเป็นบริษัทที่รับปรึกษาด้านการลงทุน และขณะที่กำลังสนุกสนานกับการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน พราวพุธ ก็ถูกคุณย่าเรียกตัวให้มาช่วยพัฒนาที่ดินย่านหัวหิน

แต่เดิมธุรกิจครอบครัวเป็นเพียงการลงทุนภายใต้ กลุ่มบริษัทประยูรวิศว์ ที่เน้นก่อสร้างถนน, ทำทางและสร้างสะพาน ครั้นเมื่อพราวเข้ามาทำงานตรงนี้จึงต่อยอดธุรกิจให้เน้นด้านอสังหาฯ มากยิ่งขึ้น โดยจัดตั้งเป็นบริษัท ภายใต้ชื่อ “พราว เรียลเอสเตท” เพื่อดำเนินงานโครงการต่างๆ

ระยะเวลาเพียง 1 ปีกว่า ที่ตัดสินใจเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว เธอยอมรับว่า ทุกโครงการของเธอสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี แต่การทำงานก็ย่อมมีปัญหาบ้างเล็ก น้อย ด้วยความที่เป็นบริษัทใหม่ หลายโครงการขยายตัวอย่างเร็ว เธอต้องพยายามทำทุกอย่าง ให้พนักงานและลูกค้าเชื่อถือและไว้วางใจในบริษัทของเธอให้ได้มากที่สุด ซึ่งตรงนี้พราวบอกว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของชีวิต

“พราวโชคดีได้เรียนรู้งานจากผู้เชี่ยวชาญ และคนในครอบครัวคอยสอนงานคอยให้คำแนะนำให้พราวเลือกทำในสิ่งที่ไม่เกินตัว หรือเกินความสามารถของตัวเอง เวลาทำงานคุณย่าจะสอนให้อดทน เพราะไม่มีใครประสบความสำเร็จได้ทุกครั้งในชีวิต ต้องมีล้มบ้างพลาดบ้าง แต่คำสอนของคุณย่าที่พราวยึดมั่นมาตลอดคือ เวลาใครมาทำธุรกิจกับเรา เขาต้องไม่เดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ ลูกค้า คู่ค้า ชุมชนที่เราเข้าไปอยู่ และเวลาจะโตก็ต้องเติบโตไปด้วยกัน พราวทำงานตรงนี้ไม่ได้มองแต่ผลกำไรอย่างเดียว พราวอยากสร้างประโยชน์ให้กับสังคมด้วย”

 
กับแรงกดดันและแรงเสียดทานในฐานะลูกนักการเมืองดัง พราวพุธบอกว่าไม่เคยเก็บมาใส่ใจ “เจอมาตั้งแต่เด็ก ตอนไปเรียนออกซฟอร์ด ช่วงนั้นคุณพ่อเป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย ก็มีคนพูดว่าเข้าได้เพราะเส้นสายคุณพ่อ พราวปล่อยให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า คุณพ่อไม่ได้ช่วยอะไรเลย พราวเรียนจบมาได้เกียรตินิยม หลายคนจึงเข้าใจว่าไม่ได้เป็นอย่างที่คนพูดกัน ทำงานนี่ก็เหมือนกัน จริงๆ แล้วถ้าเทียบกับสมัยคุณพ่อเป็นเด็กๆ คุณพ่อทำงานหนักกว่าพราวนะคะ พราวเข้ามาทำตรงนี้ ก็เหมือนมาต่อยอดที่ดินของคุณย่าและคุณปู่ที่ช่วยกันสร้างมา”

เวลาแค่ 1 ปีกับการปั้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เธอยอมรับว่าเหนื่อยแต่สนุก โดยในแต่ละสัปดาห์เธอจะต้องเดินทางไปหัวหิน 2-3 วัน เพื่อดูแลโครงการหลักของบริษัท ทั้ง โครงการบลูพอร์ท ศูนย์การค้าชอปปิงคอมเพล็กซ์ หัวหิน ที่ร่วมทุนกับ เดอะมอลล์ กรุ๊ป โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน และ โครงการ วานา นาวา หัวหิน สวนน้ำเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์

“เวลางานก็ทำเต็มที่นะคะ สไตล์การทำงานกับพนักงานจะมีความเป็นกันเองในระดับหนึ่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า คุณจะแต่งตัวมาทำงานอย่างไรก็ได้ เราไม่สน แต่งานต้องเพอร์เฟกต์ นอกเวลางานจะเล่น จะทำอะไรก็ตามสบายแต่อย่างเดียวคือ งานที่ออกมาต้องได้ดีอย่างที่เราคิดเอาไว้ เสาร์-อาทิตย์พยายามไม่รับนัดใคร จะใช้เวลาวันหยุดตระเวนทานข้าวกับคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัวเราเป็นนักชิมที่ไหนว่าอร่อยจะต้องไปชิมกันหมด”

 
เมื่อถามถึงแผนงานในอนาคต พราวพุธตอบชัดเจนว่า รักและสนใจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป้าหมายต่อไปคือ เธออยากเป็น 1 ในการเป็นผู้นำด้านสวนสนุกของไทย

“ 1 เดือนที่สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน พราวรู้สึกมีความสุข ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของคนที่เข้าไปเที่ยว ทำให้พราวรู้สึกมาถูกทาง ในอนาคตข้างหน้าอาจจะมีสวนน้ำแห่งที่ 2 และ 3 อีกแน่นอน ตอนนี้กำลังดูสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอยู่ค่ะ” ทายาทนักการเมืองสาวกล่าวทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้ม
กำลังโหลดความคิดเห็น