เสริมสุขขายแบรด์ “เอส” ให้ไทยเบฟฯ แบบมีเงื่อนไข ด้วยมูลค่า 1,560 ล้านบาท นักวิเคราะห์ระบุ “เสริมสุข” กินยาว พลิกขาดทุนเป็นกำไรทันทีเตรียมลงทุนเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต และพัฒนาประสิทธิภาพการจัดจำหน่าย ขณะที่บมจ.ไทยเบฟฯ ต้องลุ้นดัน “เอส” เจาะตลาดเพื่อนบ้านพรมแดนติดกันได้เร็วแค่ไหน
บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) SSC หรือ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 10/2557 (พิเศษ) เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2557 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ทำรายการ Conditional Sale เครื่องหมายการค้า “เอส” ให้กับ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด บริษัทย่อยของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นทั้ง 100%เป็นมูลค่าประมาณ 1,560 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาการชำระเงิน 3 ปี
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) SSC หรือ ชี้แจงว่า การทำรายการขายในครั้งนี้บริษัทฯ จะยังคงได้รับประโยชน์จากค่ารับจ้างผลิตและจัดจำหน่ายตามสัญญาผูกพัน ดังนั้นบริษัทฯ จะนำเงินไปลงพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตให้ดียิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถที่สูงสุดในการขายและการจัดจำหน่าย
“เราต้องการสร้างแบรนด์ “เอส” ให้เป็นแบรนด์น้ำอัดลมสุดขั้วของเมืองไทย ที่มีศักยภาพสูงและมีความพร้อมในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ พลังจากกลุ่มไทยเบฟในการสนับสนุนแบรนด์ “เอส” ให้เติบโตในตลาดต่างประเทศ” นายฐิติวุฒิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติแต่งตั้งบริษัท แกรนท์ ธอร์นตัน เซอร์วิส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการเข้าทำรายการขาย Conditional Sale โดยได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2557 ในวันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2557
ปัจจุบัน เกรท แบรนด์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศฮ่องกงและ SSC ถือหุ้น 100% เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า " เอส " โดย บริษัทเกรท แบรนด์ ลิมิเต็ด ได้อนุญาตให้บริษัทฯใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวสำหรับการผลิต การตลาดและการขาย การโฆษณา และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโคล่า และเครื่องดื่มอัดลมอื่น ๆ ซึ่งผลิตและจำหน่ายโดย SSC
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต กล่าวว่า การขายหุ้นครั้งนี้บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) SSC อาจสามารถพลิกขาดทุนจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน 268 ล้านบาทเป็นกำไรได้ ณ งวดการดำเนินงานสิ้นปี 2557 ได้ และการที่ยังคงเป็นผู้รับจ้างผลิตก็น่าจะส่งผลให้บริษัทยังคงศักยภาพในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของ บทจ.ไทยเบฟ หากสามารถผลักดันแบรด์ “เอส” ให้สามารถเจาะตลาดกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านพรมแดนติดกันได้ ก็จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากยอดขาย อย่างไรก็ตามหุ้น SSC และ บมจ.ไทยเบฟ เป็นหุ้นที่มีนักลงทุนรายย่อยถือครองไม่ถึง 11% ดังนั้นความเคลื่อนไหวของหุ้นดังกล่าวจึงมีไม่มาก
“บมจ.ไทยเบฟ แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการทำตลาด การจะนำแบรด์สินค้าไทยให้ออกไปเติบโตในต่างประเทศไม่น่าลำบาก แต่ก็ต้องดูด้วยว่าการทำกำไรจากยอดขายจะสร้างจุดคุ้มทุนได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ ในส่วนของเสริมสุขก็น่าจะได้รับประโยชน์จากการรับจ้างผลิต และจัดนำหน่าย ซึ่งหากเสริมสุขมีเทคโนโลยีด้านการผลิตที่ดีขึ้น ก็จะสร้างประโยชน์ให้กับทั้งไลน์ผลิต และการทำตลาดทั้งนี้ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าการทำรายการครั้งนี้สร้างกำไรรวมให้ บมจ.ไทยเบฟ อย่างไรเพราะยังอยู่ระหว่างดำเนินการ” นายอดิศักดิ์ กล่าว
บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) SSC หรือ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 10/2557 (พิเศษ) เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2557 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ทำรายการ Conditional Sale เครื่องหมายการค้า “เอส” ให้กับ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เบฟเวอเรจ โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด บริษัทย่อยของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นทั้ง 100%เป็นมูลค่าประมาณ 1,560 ล้านบาท โดยมีระยะเวลาการชำระเงิน 3 ปี
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) SSC หรือ ชี้แจงว่า การทำรายการขายในครั้งนี้บริษัทฯ จะยังคงได้รับประโยชน์จากค่ารับจ้างผลิตและจัดจำหน่ายตามสัญญาผูกพัน ดังนั้นบริษัทฯ จะนำเงินไปลงพัฒนาเทคโนโลยีด้านการผลิตให้ดียิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถที่สูงสุดในการขายและการจัดจำหน่าย
“เราต้องการสร้างแบรนด์ “เอส” ให้เป็นแบรนด์น้ำอัดลมสุดขั้วของเมืองไทย ที่มีศักยภาพสูงและมีความพร้อมในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ พลังจากกลุ่มไทยเบฟในการสนับสนุนแบรนด์ “เอส” ให้เติบโตในตลาดต่างประเทศ” นายฐิติวุฒิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติแต่งตั้งบริษัท แกรนท์ ธอร์นตัน เซอร์วิส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นแก่ผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการเข้าทำรายการขาย Conditional Sale โดยได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2557 ในวันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2557
ปัจจุบัน เกรท แบรนด์ ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศฮ่องกงและ SSC ถือหุ้น 100% เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า " เอส " โดย บริษัทเกรท แบรนด์ ลิมิเต็ด ได้อนุญาตให้บริษัทฯใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวสำหรับการผลิต การตลาดและการขาย การโฆษณา และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโคล่า และเครื่องดื่มอัดลมอื่น ๆ ซึ่งผลิตและจำหน่ายโดย SSC
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต กล่าวว่า การขายหุ้นครั้งนี้บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) SSC อาจสามารถพลิกขาดทุนจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน 268 ล้านบาทเป็นกำไรได้ ณ งวดการดำเนินงานสิ้นปี 2557 ได้ และการที่ยังคงเป็นผู้รับจ้างผลิตก็น่าจะส่งผลให้บริษัทยังคงศักยภาพในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของ บทจ.ไทยเบฟ หากสามารถผลักดันแบรด์ “เอส” ให้สามารถเจาะตลาดกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านพรมแดนติดกันได้ ก็จะส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากยอดขาย อย่างไรก็ตามหุ้น SSC และ บมจ.ไทยเบฟ เป็นหุ้นที่มีนักลงทุนรายย่อยถือครองไม่ถึง 11% ดังนั้นความเคลื่อนไหวของหุ้นดังกล่าวจึงมีไม่มาก
“บมจ.ไทยเบฟ แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการทำตลาด การจะนำแบรด์สินค้าไทยให้ออกไปเติบโตในต่างประเทศไม่น่าลำบาก แต่ก็ต้องดูด้วยว่าการทำกำไรจากยอดขายจะสร้างจุดคุ้มทุนได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ ในส่วนของเสริมสุขก็น่าจะได้รับประโยชน์จากการรับจ้างผลิต และจัดนำหน่าย ซึ่งหากเสริมสุขมีเทคโนโลยีด้านการผลิตที่ดีขึ้น ก็จะสร้างประโยชน์ให้กับทั้งไลน์ผลิต และการทำตลาดทั้งนี้ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่าการทำรายการครั้งนี้สร้างกำไรรวมให้ บมจ.ไทยเบฟ อย่างไรเพราะยังอยู่ระหว่างดำเนินการ” นายอดิศักดิ์ กล่าว