ธ.ก.ส.ประเดิมจ่ายเงินช่วยชาวนาวันแรก เริ่มใน 8 จังหวัดนำร่อง ซึ่งมีความพร้อมในการลงทะเบียนก่อน จำนวน 14,311 ราย วงเงิน 176.1 ล้านบาท คาดจ่ายเงินได้ครบทั้งหมดภายในเดือน พ.ย.นี้
พล.ท.พิชิต ฟูฟุ้ง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 เป็นประธานในพิธีมอบเงินตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่สำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดลพบุรี ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ประเดิมจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท สำหรับชาวนาที่จะได้รับเงินในวันนี้มี 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดลพบุรี และอีก 7 จังหวัดนำร่อง โดยทาง พล.ท.พิชิต ขอให้เกษตรกรนำเงินที่ได้รับไปใช้จ่ายลดต้นทุนการผลิตสำหรับการปลูกข้าวในฤดูกาลผลิต 2557/58
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือครั้งนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาผลผลิตตกต่ำ และช่วยให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพของเกษตรกร ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 ที่มอบหมายให้ ธ.ก.ส. จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2557/58 จำนวนทั้งสิ้น 3.49 ล้านครัวเรือน ตามพื้นที่ปลูกข้าวจริง แต่ไม่เกิน 15 ไร่ ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท โดยเริ่มก่อนใน 8 จังหวัด ที่มีความพร้อมในระบบการขึ้นทะเบียน ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร ลพบุรี ขอนแก่น สุรินทร์ ศรีสะเกษ และจังหวัดมหาสารคาม หลังจากนั้น ธ.ก.ส.จะทยอยจ่ายเงินช่วยเหลือไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป คาดว่าจะจ่ายครบภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2557 นี้
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรในวันแรกทั้งสิ้น 14,311 ราย วงเงิน 176.1 ล้านบาท จังหวัดลพบุรี จำนวน 684 ราย วงเงิน 9.2 ล้านบาท จังหวัดขอนแก่น จำนวน 2,407 ราย วงเงิน 26.9 ล้านบาท จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 5,223 ราย วงเงิน 60.6 ล้านบาท จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 1,476 ราย วงเงิน 16.5 ล้านบาท จังหวัดสุรินท ร์จำนวน 195 ราย วงเงิน 2.3 ล้านบาท จังหวัดพิจิตร จำนวน 961 ราย วงเงิน 13.5 ล้านบาท จังหวัดกำแพงเพชร จำนวน 2,990 ราย วงเงิน 42 ล้านบาท และจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 375 ราย วงเงิน 5.1 ล้านบาท ส่วนจังหวัดอื่นๆ ธ.ก.ส. และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะประสานงานเพื่อส่งข้อมูลให้แก่ ธ.ก.ส.ดำเนินการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนไว้โดยเร็วที่สุด
สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนต่อทางเกษตรอำเภอนั้น ธ.ก.ส.ขอให้เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนโดยเร็ว ซึ่งเกษตรกรต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวต่อเกษตรอำเภอในพื้นที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและรับรองสิทธิ โดยคณะกรรมการบริหารมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยระดับอำเภอ จากนั้นให้ชาวนานำสำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก และสำเนาบัตรประชาชน มาจัดทำหนังสือแสดงความจำนงขอเข้าร่วมโครงการที่ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ หลังจากนั้น ธ.ก.ส.จะตรวจสอบความถูกต้อง และส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรงต่อไป ทั้งนี้ หากเกษตรกรดำเนินการถูกต้อง ครบถ้วนตามขั้นตอนดังกล่าวก็จะได้รับเงินภายใน 3 วัน นับตั้งแต่ยื่นเอกสารที่ ธ.ก.ส. สาขาในพื้นที่ใกล้บ้าน
ทั้งนี้ เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ธ.ก.ส.จะเร่งดำเนินการเพื่อให้เกษตรกรทุกรายที่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ได้รับเงินทุกรายโดยไม่ให้ตกหล่น จึงอยากให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเร่งขึ้นทะเบียนตามขั้นตอนโดยเร็วเพื่อให้เงินถึงมือโดยเร็ว ซึ่งจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในระยะสั้น และทาง ธ.ก.ส.จะหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในระยะยาวสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป