นักเศรษฐศาสตร์มั่นใจ ศก.ไทย ไตรมาส 4 มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเร่งอัดฉีดงบประมาณของภาครัฐ ขณะที่ สศค. เตรียมประเมินตัวเลขใหม่สิ้นเดือนนี้ ด้านธนาคารโลก คาดแนวโน้มจีดีพีปีหน้าโตได้ร้อยละ 3.5
น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวถึงแนวโน้มการขยายตัวของเศรฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ว่า ผลจากการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เช่น งบช่วยเหลือชาวนา จำนวน 40,000 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 0.3 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ได้
ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีหน้า ปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการเติบโตเศรษฐกิจไทยคือ ควมผันผวนของเศรษฐกิจโลก เพราะเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง ขณะที่เศรษฐกิจยุโรป และญี่ปุ่นยังไม่ดี รวมทั้งจีนซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย หากเศรษฐกิจจีนไม่ดี การสั่งซื้อสินค้าจากไทยน้อยลง ส่งผลต่อการส่งออกของไทยด้วย ธนาคารโลกจึงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าจะขยายตัวได้ในระดับไม่เกินร้อยละ 3.5
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า มาตรการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณโดยเฉพาะงบเหลื่อมปี และการเร่งเบิกจ่ายงบใหม่ จะช่วยให้ภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ มีโอกาสที่จะขยายตัวได้สูงกว่าช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ที่ตัวเลขเศรษฐกิจฐานต่ำมาก จากการบริโภคที่ต่ำ โครงการรถยนต์คันแรกที่สิ้นสุดลง การเบิกงบประมาณที่ล่าช้า โดยสามารถเบิกจ่ายงบได้เพียงร้อยละ 89 จากที่ปกติอยู่ที่ร้อยละ 93-94 ของงบประมาณ ซึ่ง สศค.จะประเมินตัวเลขใหม่ในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกค่อนข้างมาก แม้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นชัดเจน แต่ยังมีความเสี่ยงจากยูโรโซน และจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย รวมทั้งสินค้าเกษตรของไทยราคาตกต่ำด้วย